ไฮเออร์ ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 14,000 ล้าน มั่นใจตลาดยังมีโอกาสโตสูงอากาศเย็นไม่กระทบยอดขายแอร์ - Forbes Thailand

ไฮเออร์ ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 14,000 ล้าน มั่นใจตลาดยังมีโอกาสโตสูงอากาศเย็นไม่กระทบยอดขายแอร์

ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 อยู่ที่ 14,000 ล้านบาท หลังปี 2567 กวาดรายได้ตามเป้าที่ 11,000 ล้านบาท มั่นใจอากาศเย็นลงกว่าปีก่อนไม่กระทบยอดขายแอร์เพราะตลาดยังมีโอกาสโตได้อีกมาก


    มร. ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2567 มีมูลค่าอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท โต 5.4% ขณะที่ยอดขายของไฮเออร์ ประเทศไทยเติบโตขึ้น 22% ปิดปีที่ 11,000 กว่าล้านบาท สูงกว่าปี 2566 ที่มีมูลค่า 9,070 ล้านบาท 

    ทั้งนี้ รายได้หลักครึ่งหนึ่งจำนวน 5,100 ล้านบาท มาจากยอดขายเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่ครองอันดับ 1 ของตลาดจากจำนวนยอดขายผ่านออฟไลน์ที่เติบโตสูงถึง 26%, ด้านยอดขายตู้เย็นมากกว่า 1,600 ล้านบาท เติบโต 25%, ยอดขายเครื่องซักผ้ามากกว่า 900 ล้านบาท เติบโต 21%, ด้านยอดขายตู้แช่เป็นอันดับ 1 ของตลาด ด้วยยอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 15%, ยอดขายเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 1,000 ล้านบาท เติบโต 31%, ยอดขายทีวีมากกว่า 600 ล้านบาท เติบโต 16% และยอดขายเครื่องทำน้ำอุ่นมากกว่า 100 ล้านบาท เติบโต 35%


    มร. ต่ง เจี้ยนผิง กล่าวเสริมถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2568 ว่า ไฮเออร์ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้โตเพิ่ม 28% อยู่ที่ 14,000 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบการตลาดกว่า 1,200 ล้านบาท ทำกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุกเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และจะแบ่งงบจำนวน 200 ล้านบาท ทำการตลาดผ่านกลยุทธ์ Sport Marketing หลังจากที่ผ่านมากลยุทธ์ดังกล่าวช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ และกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นได้

    "เรามั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้า และรายได้จากการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็น 6,000 ล้านบาท แม้ว่าสภาพอากาศในปีนี้จะเย็นลงกว่าปีก่อน แต่ในส่วนผู้บริโภคทั้งหมดที่มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งอยู่ที่บ้านก็ยังมีจำนวนเพียง 50% ถือเป็นโอกาสที่ธุรกิจจะยังขยายตัวได้อีกมากโดยเฉพาะหลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่ออกมาล่าสุด"

    สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตด้านช่องทางการขาย ไฮเออร์เตรียมแผนขยายทุกช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยตั้งเป้าสัดส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น 35% ช่องทางตัวแทนผู้จัดจำหน่ายดีลเลอร์เพิ่มขึ้น 15% ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 35%  และช่องทาง B2B เพิ่มขึ้น 15% 

    อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 7 หมวดหมู่ยอดนิยม รวมกว่า 50 รุ่น ครอบคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเซกเมนต์ ได้แก่ สินค้าเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ตู้แช่ ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น  อาทิ เครื่องปรับอากาศ รุ่นใหม่ Haier UV Cool Voice Series ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของแบรนด์ไฮเออร์โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือ Wifi, ตู้เย็น รุ่นใหม่ HRF-490IWMGU1 มีระบบ IOT สามารถควบคุมในระยะไกลได้ผ่านสมาร์ทโฟน, เครื่องซักผ้ารุ่น HWD150-BP14986ES8U1 ที่มีขนาดถังซักใหญ่ถึง 601 มิลลิเมตร, ตู้แช่ รุ่นใหม่ HCF-200DP60 สามารถทำความเย็นได้ถึง -60 องศา เป็นต้น 


    อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางบริษัทยังมีการเปิดตัวแบรนด์เครื่องปรับอากาศจากอิตาลี อย่าง Candy (แคนดี้) รุ่นใหม่ ECO Master Series ที่มาพร้อมประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาวและเน้นขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยอีกด้วย 

    “ไฮเออร์มีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มให้สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ครบทุกมิติ ชูความโดดเด่นทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์โซลูชันในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้สมาร์ทมากยิ่งขึ้น” มร. ต่ง เจี้ยนผิง กล่าวปิดท้าย


ภาพ : Haier



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เมื่อ ‘ตู้เสื้อผ้า’ สามารถ ‘ฟอกอากาศ’ ได้! เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ผนึกกำลัง MTEC เปิดตัว Smart Wardrobe Purifier ครั้งแรกในไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine