UNGCNT : NRF ดูแลโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ผ่านความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร - Forbes Thailand

UNGCNT : NRF ดูแลโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ผ่านความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร

FORBES THAILAND / ADMIN
22 Dec 2023 | 04:30 PM
READ 1318

ในขณะที่อัตราการเกิดของประชากรทั่วโลกกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง จากข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจและความโดดเดี่ยวในช่วงเว้นระยะห่างทางสังคม ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงได้กลายมาเป็นกระแสที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่หลายๆ คนให้ความสำคัญกับสมาชิกใหม่เสมือนครอบครัวหรือเพื่อนใจคนโปรด "ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง" เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้การวางแผนการลงทุนระยะยาว มุ่งเน้นด้านคุณภาพมากยิ่งขึ้น


​เพื่อเป็นการตอบรับกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนไป บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน)  หรือ NRF หนึ่งในสมาชิกของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT) และเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารระดับโลกและแบรนด์ชั้นนำด้านอาหาร Plant - based ของไทย ได้เปิดตัว "Botany Petcare" กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงใหม่ล่าสุดของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรในการต่อสู้กับสภาวะโลกร้อนและดูแลโลกให้น่าอยู่มากขึ้น ตามกลยุทธ์ความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร

​แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF

แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า "ความพยายามในการลดก๊าซเรือนกระจกที่ผ่านมา ส่งผลให้เราเห็นถึงความสำเร็จและความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ซึ่งการแก้ไขปัญหาก๊าซเรือนกระจก จะต้องลงมือทำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ไม่ใช่แค่เพียงกระบวนการผลิตเท่านั้น"

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของ NRF นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความท้าทายไม่มากนัก ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม      ผู้บริโภคและเป็นโอกาสผลักดันแบรนด์ให้เป็นผู้นำเทรนด์

​แดน ปฐมวาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ทิศทางอุตสาหกรรมอาหาร มีธุรกิจอย่างซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นตัวกำหนดราคาของสินค้าปลายทาง ทำให้คนกลางในห่วงโซ่อุปทานปรับราคาเพื่อสร้างผลกำไร การที่เราเพิ่มไลน์สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงให้กับแบรนด์ ส่งผลให้เราลงทุนด้านการผลิตเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดทั่วโลก"

ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซูเปอร์มาร์เก็ตกว่า 60% ใส่ใจในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ผู้จำหน่ายสินค้ามองหาสินค้าที่มีการรับรองการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ เพื่อดึงดูดร้านค้าขายปลีกและเร่งการสั่งซื้อ เนื่องจากสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ สามารถทำยอดขายได้ดีในตลาดต่างประเทศ และช่วยให้บริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้เร็วขึ้น

​ปัจจุบันธุรกิจปลายน้ำของ NRF อย่าง Bamboo Mart ร้านค้าขายปลีกอาหารเอเชียกว่า 500 ชนิด เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มลูกค้าในสหราชอาณาจักร การมีซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นของตัวเองช่วยให้ NRF สามารถควบคุมราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาต้นทางของสินค้าได้

​แดน ปฐมวาณิชย์ เน้นย้ำว่า "เกษตรกร" คือส่วนที่สำคัญที่สุดในห่วงโซ่อุปทานที่ประเทศไทยไม่ควรมองข้ามความ    ตื่นตัวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระตุ้นให้อุตสาหกรรมอาหารสร้างความรู้ให้เกษตรกรในการเปลี่ยนผ่านจากวิธีการเผาไร่ไปสู่การเกษตรที่ยั่งยืน ด้วยการนำขยะจากการเกษตรมาผลิตเป็นไบโอคาร์บอนหรือถ่านชีวภาพและน้ำมันไบโอออยล์ รวมไปถึงการกิจกรรมชดเชยคาร์บอน (carbon offset) ผ่านการซื้อ-ขายคาร์บอนทั่วประเทศ (carbon credit) อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนด้านเงินทุน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับเกษตรกรในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

​เพื่อแก้ไขความท้าทายดังกล่าว NRF ได้จัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนชาวไร่ชาวนาให้เข้าร่วมการอบรมด้านความยั่งยืนและโครงการเก็บขยะที่เกิดจากการเกษตร เพื่อแลกกับเงินหรือวัตถุดิบทางชีวมวล รายได้จากธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในสหราชอาณาจักรกว่า 1 ล้านบาทต่อสัปดาห์ คือทุนที่ช่วยสนับสนุนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกร โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

​นอกจากนี้ NRF ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในช่องทางอีคอมเมิร์ซ เชื่อมต่อช่องทางการขาย เพื่อลดปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากการขนส่งให้ได้มากที่สุด

แม้ว่าการเดินทางสู่จุดหมาย net zero จะมีความท้าทายมากมาย ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา NRF ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาจุดยืนในการเป็น "องค์กรยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ผลิตอาหารระดับโลก" ที่ไม่เพียงแต่ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค แต่ได้ยืนหยัดมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อลดสภาวะโลกร้อนตลอดมา