Dyson เผยภาพรวมธุรกิจปี 2560 โต 200% หลังเริ่มต้นทำการตลาดและการขายจริงจังในปีที่ผ่านมา ชูเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าและดิจิทัลมอเตอร์ต่อยอดสู่นานาผลิตภัณฑ์
มาร์ติน เดวิส ประธานกรรมการ Dyson ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่น Dyson V8 ล่าสุดในตระกูลเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทาง Dyson ทุ่มเวลาและงบประมาณในการวิจัย พัฒนาระบบดูดฝุ่น ดิจิทัลมอเตอร์ และ ความสามารถในการจัดพลังงานไฟฟ้าในชุดแบตเตอร์รี่
มาร์ติน เดวิส กล่าวภายในงานเปิดตัวว่า ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา Dyson ใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านปอนด์ ในการพัฒนามอเตอร์เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย มีทีมวิศวกรกว่า 240 คน ในการพัฒนาดิจิทัลมอเตอร์เพียงอย่างเดียว รวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่นิกเกิลโคบอลต์อลูมิเนียมรุ่นล่าสุดที่สามารถทำให้เครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดนี้ใช้งานได้นานถึง 40 นาทีต่อการเสียบชาร์ต
“10 ปีที่ผ่านมา Dyson ได้พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายให้มีสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายใน Dyson V8 เราติดตั้งเทคโนโลยีการดูดฝุ่นล่าสุด ที่เรียกว่า 2 Tier Redial รวมถึงเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานและการป้องกันไม่ให้ละอองฝุ่นออกจากตัวเครื่อง” มาร์ติน เดวิส กล่าวและเสริมว่าด้วยแนวคิดการพลิกโฉมธุรกิจ Dyson ได้ทำการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยใช้งบประมาณสูงถึง 7 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ ภายใต้การทำงานของมีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์มากกกว่า 3,500 คน รอบโลก
ด้านภาพรวมการรุกตลาดในประเทศไทยนั้น มาร์ติน เดวิส เผยว่าผลิตภัณฑ์ของ Dyson เริ่มมีการจำหน่ายภายในประเทศตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งปีที่ผ่านมา Dyson เริ่มเข้ามาทำการตลาดอย่างจริงจัง และโดยมีบูธสินค้าในห้างสรรรพสินค้าต่างๆ เป็นช่องทางการจำหน่ายหลักในประเทศ
“เราเปิดตัว Dyson ด้วยผลิตภัณฑ์เรือธงเครื่องเป่าผมซูเปอร์โซนิคในปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจจากผู้บริโภค ส่วนในปีนี้เราเปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นที่มีจุดเด่นหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะกับการดูดฝุ่นโดยไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย ในปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจของเราโตราว 200 % ซึ่งในปีนี้เราคาดหวังว่าจะเติบโตในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา”
สินค้าของเราถือเป็นกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยที่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งอำนวยความสะดวกสบายและเป็นเทคโนโลยีแตกต่าง เราผลิตนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้กับคนทุกเพศทุกวัย มาร์ตินยกตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่นนั้น เครื่องเป่าผมซูเปอร์โซนิคเป็นที่นิยมมากในผู้ชายโดยมีสัดส่วนเกือบห้าสิบเปอร์เซนต์ของผู้ใช้งานเลยทีเดียว
ทั้งนี้ Dyson ยังได้เตรียมเปิดศูนย์ทดสอบและเรียนรู้ที่เรียกว่า
“Dyson Demo concept Store” เพื่อเป็นศูนย์รวมในการทดสอบและให้ความรู้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับทีมงาน สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง เป็นร้านต้นแบบเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ที่เปิดก่อนหน้านี้