“เดนทิสเต้” เผยปีแรกที่มีลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ดันมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ล่าสุดประกาศคว้าตัว “ลิซ่า” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้ง พร้อมปล่อยโฆษณาชุดล่าสุดที่ลิซ่าได้กำกับและวางบทเพื่อถ่ายทอดชีวิตและตัวตนของเธอเองในฐานะ “Lady Boss” พร้อมดันยอดขายเติบโต “เท่าตัว” จากการวางจำหน่ายกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์กรุ๊ป จำกัด แถลงเปิดตัว “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ “เดนทิสเต้” (Dentiste’) ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กลุ่มยาสีฟันทุกสูตรของแบรนด์ และผลิตภัณฑ์กลุ่มสเปรย์ระงับกลิ่นปากของเดนทิสเต้
ทั้งนี้ การแต่งตั้งลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ครั้งนี้มาพร้อมกับการเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “The New Chapter : Dentiste’ X The Power of Lisa’s Confident Smile” ซึ่งลิซ่ามีส่วนร่วมในการกำกับ วางคาแรคเตอร์ และเขียนบทกับทีมงานจัดทำโฆษณา โดยเนื้อหาจะถ่ายทอดชีวิตและตัวตนของเธอ ในฐานะ “Lady Boss” การเติบโตของลิซ่าตั้งแต่การเป็นศิลปิน นักเต้น มาสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจในปัจจุบัน
รวมถึงมีฉากโฆษณาที่จะเป็น “Soft Power” ให้กับประเทศไทยด้วย มีฉากการรับประทานอาหารไทยหลายเมนู เช่น พะแนงเนื้อ ต้มยำกุ้ง น้ำแข็งไส ก่อนใช้สเปรย์ระงับกลิ่นปากของเดนทิสเต้เพื่อเรียกความมั่นใจ ซึ่งโฆษณาชิ้นนี้กับเดนทิสเต้จะเป็นโฆษณาเพียงชิ้นเดียวที่ลิซ่าร่วมแสดงในปี 2567 จึงเชื่อว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมสูงในกลุ่มแฟนๆ และในตลาด
การทำสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเดนทิสเต้กับลิซ่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สาม โดยเภสัชกร ดร.แสงสุข กล่าวว่า เหตุที่ยังคงเลือกลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลังจากร่วมงานกันครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2564 ด้วยชื่อเสียงของลิซ่าที่โด่งดังในระดับสากล มีภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัย และเป็นตัวแทนของกลุ่มคน Gen Z จึงช่วยผลักดันให้มูลค่าแบรนด์เดนทิสเต้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว และดันยอดขายได้จริงประมาณ 50-100% ในช่วงที่ลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้งสองครั้งก่อนหน้า
สำหรับการทำสัญญาแบรนด์แอมบาสเดอร์กับลิซ่าเป็นครั้งที่สาม ทางบริษัทฯ คาดหวังว่าจะช่วยดันยอดขายเติบโตเป็น “เท่าตัว” ได้อีกครั้ง และคาดหวังการเติบโตในตลาดกว่า 20 ประเทศที่เดนทิสเต้เข้าไปวางจำหน่าย
เภสัชกร ดร.แสงสุข กล่าวว่า นอกจากการวางตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เหมาะสมและตรงใจกลุ่มผู้บริโภคแล้ว พื้นฐานผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้เองคือหัวใจความสำเร็จของบริษัทฯ โดยเดนทิสเต้เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ใช้แล้วเห็นผล ผู้ใช้รู้สึกสดชื่น และสร้างเสริมความมั่นใจ รวมถึงเป็นยาสีฟันที่มอบนวัตกรรมใหม่ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ เช่น ยาสีฟัน เซรั่มเพิ่มเนื้อฟันขาว Dentiste’ Repaire’ Oral Care Serum หรือยาสีฟันแบบแปรงแห้ง Dentiste’ Anticavity Max Fluoride ที่ทันตแพทย์กว่า 6,000 คนทั่วโลกแนะนำ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เพาเวอร์บาย’ เปิดตัวสาขาสแตนด์อโลนกลาง ‘หัวหิน’ ดึงนักช้อป-ทัวริสต์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine