CPN ทุ่ม 21,000 ล้าน ปักหมุดห้าง ‘The Central’ พหลโยธิน' คาดพร้อมเปิดให้บริการ ไตรมาส 4 ปี 2569 - Forbes Thailand

CPN ทุ่ม 21,000 ล้าน ปักหมุดห้าง ‘The Central’ พหลโยธิน' คาดพร้อมเปิดให้บริการ ไตรมาส 4 ปี 2569

เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เผย ทุ่มงบ 21,000 ล้าน! สำหรับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ‘The Central’ พหลโยธิน ตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ พร้อมรองรับเหล่าขาช็อปที่ขยายตัวในย่านนี้เพิ่มขึ้นจนทำให้ห้าง Central ลาดพร้าวหนาแน่นเกินไป มั่นใจ Convention Hall ขนาดใหญ่กว่า 6,700 ตร.ม. จะรองรับคอนเสิร์ตและอีเวนต์ระดับโลก คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2569


    บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เผยแผนการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ 'The Central พหลโยธิน' มูลค่าโครงการ 21,000 ล้านบาท เพื่อปักหมุดให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ ทางตอนเหนือของเมือง 

    ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นของ ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ซึ่งเป็น Mixed-Use แห่งแรกของไทย และ เป็นโครงการ Visionary Shift สร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการรีเทลของไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้ย่าน ลาดพร้าว–พหลโยธิน ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและ “The Central พหลโยธิน” มูลค่าโครงการกว่า 21,000 ล้านบาท จะเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับโลกที่ต่อยอดความสำเร็จพร้อมยกระดับไปสู่ The Next CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2569”

    ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มี Quality of Life ที่ดีที่สุดเมืองหนึ่ง รวมถึงลงทุนพัฒนาโครงการในระดับ Flagship ที่จะมาพลิกโฉมย่าน สร้าง New Cultural Hub & Business District แห่งใหม่ให้กับเมือง เช่นเดียวกับมหานครชั้นนำของโลกอย่างนิวยอร์ก, ลอนดอน, กรุงโซล และโตเกียว"

    ทั้งนี้ CPN เชื่อมั่นในโครงการ The Central ด้วย 3 ศักยภาพหลัก ได้แก่

    1. Location Power โครงการตั้งอยู่บนถนนสองสายหลัก คือ วิภาวดีรังสิต และ พหลโยธิน ปัจจุบันมีรถยนต์สัญจรผ่าน 337,000 คันต่อวัน รวมถึง MRT สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 15,600 คนต่อวัน และ BTS สายสีเขียวมีผู้โดยสาร 35,100 คนต่อวัน และในอนาคตหลังศูนย์เปิดคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 30% อีกทั้งย่านนี้ยังเชื่อมไปสู่ สนามบินดอนเมืองที่ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคนต่อปี และกำลังเตรียมขยายโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพตามแผนงานของรัฐที่จะดึงคนไทยและต่างชาติเข้ามายังย่านลาดพร้าว-พหลโยธินมากขึ้น

    2. Market Magnet โครงการ The Central พหลโยธินจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตใหม่ๆ และจะเป็นตัวเร่งสำคัญที่ยกระดับย่านให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยย่านนี้มีดีมานด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง Catchment Area มีประชากรประมาณ 2.5 ล้านคนและจากฐานข้อมูลของเราอ้างอิงจากเซ็นทรัลพัฒนา พบว่าในย่านนี้มีกลุ่มลูกค้า Wealth Segment กำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ถึง 2.3 เท่า, อีกทั้งยอดขายต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45% และจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยถึง 2.19 เท่า

    3. Flagship of Sub-Culture Communities พื้นที่ที่เปิดรับคนรุ่นใหม่และคนทุกกลุ่ม รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็น Collective Social Ground พื้นที่ของทุกคน นอกจากนี้ พื้นที่การจัดงานยังรองรับ Multi-Cultural Events และในส่วน Convention Hall มีพื้นที่กว่า 6,700 ตร.ม. สามารถรองรับคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ระดับโลกอีกด้วย



    อิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing-Fashion & Luxury บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “The Central พหลโยธิน มีศักยภาพที่โดดเด่น รองรับการเปิดแฟล็กชิพของแบรนด์ทั้งไทยและระดับโลก ดังนี้

    - พหลโยธินมีศักยภาพเทียบชั้นย่านราชประสงค์: เป็นทำเลยุทธศาสตร์เหมาะกับการพัฒนาโครงการระดับ World-Class ได้แก่ 1. Transit-Oriented Development: เติบโตบนฐานโครงสร้างคมนาคมหลัก ทั้ง BTS, MRT และถนนสายสำคัญ 2. High-Density & Mixed Demand: รายล้อมด้วยดีมานด์คุณภาพสูง ทั้งที่อยู่อาศัยระดับกลาง-บน อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถาบันการศึกษา และ 3. Anchor of Flagship Brands: เช่นเดียวกับที่ centralwOrld เป็น ‘Flagship Landmark’ ของราชประสงค์ ดังนั้น The Central พหลโยธิน จะเป็น ‘The Landmark of Northern Bangkok’ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของย่าน

    - อัตราการเติบโตสูงเทียบชั้นย่าน Central CBD: จากข้อมูลปีล่าสุด พหลโยธินช่วงต้นติด Top 10 ทำเลราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยปี 68 โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา อัตราการเติบโตสูงถึง 5% (มากกว่าย่าน เพลินจิต-ชิดลม, สุขุมวิท, สีลม, สาทร) ซึ่งตัวเลขนี้การันตีถึงศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจน

    - ย่านที่มีฐานกำลังซื้อแข็งแกร่ง: ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยที่แวดล้อมศูนย์การค้า The Central พหลโยธิน มีมากถึง 472 โครงการและมากกว่า 50% เป็นโครงการในระดับ Upper Segment ขึ้นไป นอกจากนี้ อาคารสำนักงานต่างๆ ยังมีแนวโน้มขยายตัวสู่ย่านรอบนอก โดยเฉพาะในแนว North Corridor พหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ส่วนอาคารสำนักงานที่ตั้งรอบโครงการมีถึง 52 แห่งในจำนวนนี้ 15 แห่งเป็น Grade A Office สะท้อนถึงคุณภาพของทำเลและศักยภาพการเป็นศูนย์กลาง Workplace แห่งอนาคตของกรุงเทพฯ ในส่วนของ Quality Neighbourhood โครงการยังแวดล้อมด้วยโรงเรียนชั้นนำ 51 แห่ง (เป็นโรงเรียนอินเตอร์ 6 แห่ง), มหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง, และโรงแรม 41 แห่ง”

    จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ Head of Business Development บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า "The Central’ พหลโยธิน คือ Curated Community ของคนรุ่นใหม่และครอบครัวทุกเจเนอเรชัน โดยจะตอบรับเทรนด์การออกแบบแห่งอนาคต เราได้ร่วมมือกับ World-Class Designers และ Local Leading Designers"

    สำหรับไอไลต์ของโครงการ จุฑาธรรม บอกว่า “ทั้งโครงการมีการออกแบบ Indoor-Outdoor Seamless Journey มีไฮไลท์ อาทิ Central Stage ที่เชื่อมโยง International Food ในชั้นบน กับ Street Food ในชั้นล่าง และจะมี Pop-Up Food Events, Market Hall ออกแบบพื้นที่ให้มีความ Dynamic ทำให้การมาแต่ละครั้งเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่, Waterfall Courtyard เป็นโอเอซิสที่เต็มไปด้วย Edible Garden ในแนวคิด From Farm to Table เป็นต้น"






ภาพ : CPN




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า' เตรียมเปิดยิ่งใหญ่ 6 พ.ย. 68 นี้ หลังทุ่มกว่า 1,700 ล้าน รีโนเวทปรับโฉมใหม่ในรอบ 30 ปี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine