เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มงบ 500 ล้าน ฉลองเคานต์ดาวน์ 13 ศูนย์การค้าทั่วประเทศ เซ็นทรัลเวิลด์จัดเต็มเหมือนเดิม “พีพี-บิวกิ้น” นำทัพศิลปิน T-Pop ขึ้นแสดง อลังการแสง สี เสียง พลุ และโดรนแปรอักษร ตอกย้ำการเป็น Times Square of Asia
หากพูดถึงการเคานต์ดาวน์ในกรุงเทพมหานคร หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเช็กอินคือ เซ็นทรัลเวิลด์ (centralwOrld) ที่มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นที่ยอมรับในระดับโลกตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมาว่าเป็น Times Square of Asia
ในปีนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร เตรียมจัดใหญ่จัดเต็มกว่าทุกครั้ง ในชื่อและคอนเซ็ปต์ว่า “centralwOrld Bangkok Countdown 2026 The Original - A Tribute To Love” ณ เซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัล 13 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อสร้างปรากฏการณ์เฉลิมฉลองข้ามปี และตอกย้ำบทบาทเวทีเคานต์ดาวน์อันดับหนึ่งของไทย พร้อมร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ด้วยการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เซ็นทรัลเวิลด์เป็นเวที Entertainment Countdown ระดับโลก โดยได้การยอมรับเทียบเท่า Times Square of Asia และเป็นจุดเริ่มต้นของ Countdown Culture ที่ชวนผู้คนออกมานับถอยหลังและฉลองร่วมกันใจกลางเมือง จนกลายเป็นภาพจำของประเทศไทย
อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกพาเคานต์ดาวน์ของไทยให้ไปปรากฏบนเวทีสื่อระดับโลก และไปอยู่บนจอ Times Square new York ได้สำเร็จ ถือเป็นการสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในระดับสากล
ในปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนาได้ทุ่มงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อยกระดับประสบการณ์เคานต์ดาวน์ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเวที โปรดักชัน พลุ และรูปแบบการแสดง โดยนำเสนอในรูปแบบ World’s Music Festival ใจกลางกรุงเทพฯ ที่รวมศิลปิน T-Pop แถวหน้าของเมืองไทยไว้อย่างคับคั่ง อาทิ พีพี กฤษฏ์, บิวกิ้น พุฒิพงศ์, ปาล์มมี่, นนท์ ธนนท์, อิงค์ วรันธร, ฟรีน-เบคกี้, ซี-นุนิว, PERSES, DICE, GELBOYS, 4EVE, โบกี้ไลออน, THE TOYS และ โจอี้ บอย เป็นต้น พร้อมด้วย Exclusive Song List และ Special Show รวมศิลปิน ซึ่งทั้งหมดนี้คือฟรีคอนเสิร์ตระดับ World class ที่ขับเคลื่อนด้วยฝีมือคนไทย 100%
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงการแสดงโดรนแปรอักษรที่ถ่ายทอดสารแห่งความรัก ความสามัคคี และความหวัง ส่งต่อ Message to the World จากใจกลางกรุงเทพฯ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก
ทั้งนี้ เซ็นทรัลเวิลด์พร้อมอำนวยความสะดวกผู้ร่วมงาน โดยมีที่จอดรถนับพันคัน พร้อมทางเข้า-ออกหลายทาง และรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเปิดให้บริการถึงเวลา 02.00 น. โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับผู้คนนับแสนที่คาดว่าจะเดินทางมาร่วมงาน
“ช่วงเคานต์ดาวน์ที่เซ็นทรัลเวิลด์จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เป็นต้นไป โดยจะมีการจัดงานทุกวัน และคาดว่าจะมีทราฟฟิกในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นราว 20-25% ส่วนยอดการจับจ่ายใช้สอยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 20% ตลอดเดือนธันวาคมนี้”
ขณะเดียวกัน เซ็นทรัลพัฒนายังได้กระจายพลังความสุขสู่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 13 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ อยุธยา พิษณุโลก มหาชัย พัทยา มารีน่า ระยอง โคราช สมุย หาดใหญ่ ศรีราชา และจันทบุรี โดยมีคอนเสิร์ตจากศิลปินรวมกันกว่า 500 ชีวิต มาร่วมสร้างช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนับถอยหลังสู่ปีใหม่ไปพร้อมกัน ซึึึ่งคาดว่าจะมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นราว 10-15% และมีผู้ร่วมงานกว่า 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ พร้อมกับสร้าง Global Reach กว่า 50 ล้านวิว ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดสถิติที่สุดแห่งปี 2025 จาก ‘แกร็บ’ ‘เทวาลัยพระพิฆเนศ’ ห้วยขวาง มาแรง! ยอดเรียกรถเติบโตขึ้น 678%
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine