เครื่องสำอางไทยบูม! โตพุ่ง 6% แตะ 4 แสนล้านบาท ยืนหนึ่งในอาเซียน COSMEX สร้างแต้มต่อแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก

เครื่องสำอางไทยบูม! โตพุ่ง 6% แตะ 4 แสนล้านบาท ยืนหนึ่งในอาเซียน COSMEX สร้างแต้มต่อแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก

อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยปี 2568 คาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งแตะ 4 แสนล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 6–7% ต่อปี ครองตำแหน่ง “ตลาดใหญ่สุดในอาเซียน” ทั้งในแง่ผู้บริโภคและผู้ผลิต พร้อมโอกาสก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจความงามระดับโลก


    ลักษณ์สุภา ประภาวัต นายกสมาคมการค้าคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยเติบโตต่อเนื่องจากฐานเพียง 7 หมื่นล้านบาทเมื่อ 20 ปีก่อน ภาพรวมเติบโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าแตะ 4 แสนล้านบาท สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่เริ่มมีศักยภาพในการ “โคแบรนด์” กับต่างประเทศ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดเอเชีย

    “ประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านทรัพยากรชีวภาพ พืชพรรณกว่า 1,500 ชนิดที่ใช้เป็นวัตถุดิบเครื่องสำอางได้ และเป็นที่สนใจในตลาดโลก ขณะที่เทรนด์ ‘บิวตี้จากธรรมชาติ’ ยังคงมาแรง ทำให้ไทยมีศักยภาพจะเป็นฐานการผลิตเครื่องสำอางจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สำคัญของโลก” ลักษณ์สุภากล่าว


ลักษณ์สุภา ประภาวัต


    ทั้งนี้ ลักษณ์สุภามองว่าตลาดเครื่องสำอางไทยปีนี้ขับเคลื่อนด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเติบโตของแบรนด์ไทยในตลาดทั้งในและต่างประเทศ, เมกะเทรนด์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการความงามที่เน้นสุขภาพและธรรมชาติ, การขยายฐานผู้บริโภคสู่กลุ่มใหม่ เช่น กลุ่มผู้ชายและวัยทำงาน และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นรายใหม่ ทั้งในและต่างชาติ

​    “ไทยยังได้เปรียบด้านระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฐานการผลิต บรรจุภัณฑ์ การวิจัย ไปจนถึงบุคลากรคุณภาพ โดยมีสถาบันการศึกษากว่า 26 แห่ง เปิดสอนด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ” ลักษณ์สุภากล่าว

    นายกสมาคมฯ ระบุว่า “จุดแข็งของไทยคือการมีภูมิปัญญาและเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งโลกให้คุณค่าไม่แพ้เทคโนโลยีใหม่ๆ” พร้อมยกตัวอย่างว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางระดับโลก เช่น ฝรั่งเศส ใช้ “เรื่องเล่าและประวัติศาสตร์” เป็นจุดขายสำคัญ เช่นเดียวกับไทยที่สามารถต่อยอดจุดแข็งนี้ได้เช่นกัน

    นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม ทั้งศูนย์นิทรรศการระดับนานาชาติ สนามบิน และเครือข่ายโลจิสติกส์ ทำให้เป็นฐานการจัดแสดงและเชื่อมโยงธุรกิจเครื่องสำอางในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    แม้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง แต่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยยังเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ที่ต้องการช่วงชิงตลาด “บิวตี้ธรรมชาติ” ซึ่งเติบโตหลังโควิด-19

​    ผู้ประกอบการที่จะอยู่รอดได้ ต้องให้ความสำคัญกับ คุณภาพ วัตถุดิบ การวิจัย และการตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมาตรฐานระดับสากล

    ลักษณ์สุภากล่าวอีกว่า ในระยะยาว ไทยยังมีโอกาสขยายตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ในแง่ของวัตถุดิบที่เป็นที่ต้องการในโลก สามารถปลูกในไทยและส่งกลับไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชียกลาง เช่น คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน ซึ่งมีความต้องการสินค้าความงามสูงและสภาพภูมิอากาศคล้ายไทย เหมาะสำหรับใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย เพราะมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน

    ทั้งนี้ ล่าสุดสมาคมฯ ผนึกพันธมิตร จัดงาน COSMEX 2025 ภายใต้แนวคิดการชู T-Beauty ยืนหนึ่งเคียงข้าง Global Beauty

    วราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ RX BITEC กล่าวว่า “งาน COSMEX เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมความงามในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนวัตกรรมใหม่ๆ จากต่างประเทศ การสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมแบรนด์ในภูมิภาคอาเซียนให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ


วราภรณ์ ธรรมจรีย์


    “COSMEX ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้า แต่เป็นเวทีกำเนิดและบ่มเพาะแบรนด์ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพแบบเฉพาะ และเป็นจุดเชื่อมโยงผู้ประกอบการในอาเซียนและอีกหลายประเทศ เป็นพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านได้มาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ของ ASEAN Beauty ที่มีความหลากหลายในเวทีโลก ทำให้บทบาทสำคัญของงานนี้ คือ การผลักดันให้ภูมิภาคของเรากลายเป็นศูนย์กลางความงามที่มีอัตลักษณ์และศักยภาพสูง” วราภรณ์ กล่าว




ภาพ COSMEX



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LINE MAN ขึ้นอันดับ 1 ลงทะเบียนร้านคนละครึ่งวันแรก! กวาดกว่า 3 หมื่นร้านทั่วไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine