CLOVER ENTERTAINMENT เอเจนซีผู้พัฒนาครีเอเตอร์อันดับ 1 จากเกาหลีใต้ นำร่องปักหมุดในไทยเป็นแห่งแรกก่อนลุยตลาดโลก มั่นใจตลาด 'อินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้ง' ไทยมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,320 ล้านบาท พร้อมนำจุดแข็งด้าน TikTok Live และการตลาดดิจิทัลครบวงจรมาช่วยปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ไทยดันยอดขายให้ทะลุเป้า
ปาร์ค อิลซอ ซีอีโอ บริษัท CLOVER ENTERTAINMENT กล่าวถึงการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว THE CLOVER UNIVERSE ENTERTAINMENT ว่า ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผู้ใช้งานรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะ TikTok
ทั้งนี้ ในปัจจุบันตลาดอินฟลูเอนเซอร์ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีมูลค่าสูงถึง 2.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 ขณะที่มูลค่าของปี 2567 นี้ น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.4 หมื่นล้านเหรียญได้อย่างแน่นอน พร้อมการคาดการณ์ในปี 2575 มูลค่าดังกล่าวจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมหาศาลอยู่ที่ราวๆ 2 แสนล้านเหรียญ ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 28.6% ต่อปี
จากตัวเลขที่กล่าวมาข้างต้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า 'อินฟลูเอ็นเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง' ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ทรงพลังและได้รับความนิยมไปทั่วโลก อีกทั้งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้งเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 68.78 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 2,320 ล้านบาท
สำหรับพฤติกรรมของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียไทยที่มีจำนวนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ผู้คนนิยมเสพคอนเทนต์ออนไลน์และติดตามครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่ตนเองชื่นชอบ และยังมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้
ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงหันมาใช้กลยุทธ์นี้ทำการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงอย่าง TikTok Live ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับอินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์ได้แบบเรียลไทม์ กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Clover Entertainment เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ Clover Entertainment ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้งอันดับ 1 จากเกาหลีใต้ โดยในอนาคตทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่ระดับโลกหลังจากนำร่องปักหมุดในไทยเป็นแห่งแรกอีกด้วย
"บริษัทเอเจนซีของเรามี Know How หรือความเชี่ยวชาญด้านการสร้างคอนเทนต์หรือกลยุทธ์ต่างๆ ผ่านทาง TikTok Live ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพเหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ที่อยู่ภายใต้สังกัดให้มียอดวิวหรือยอดผู้ติดตามและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการได้รับ Gift หรือของขวัญที่เหล่าบรรดาแฟนๆ ต่างมอบให้ควบคู่ไปกับรายได้จากทางแพลตฟอร์ม TikTok
ซึ่งในส่วนของทางเอเจนซีจะไม่มีการหักรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์แต่อย่างใด แต่จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ผ่านระบบหลังบ้านจากทาง TikTok หลังจากที่มีการหักรายได้จากของขวัญที่แฟนๆ ส่งให้กับครีเอเตอร์ในระหว่างการไลฟ์ตามระบบของแพลตฟอร์มพื้นฐานทั่วไปอยู่แล้ว และเมื่อแบรนด์มีความสนใจจ้างงานกับทางครีเอเตอร์ภายใต้สังกัดให้ทำการไลฟ์ขายสินค้าทางเอเจนซีก็จะเลือกหักเปอร์เซ็นต์หรือแบ่งสัดส่วนรายได้ตามความเหมาะสมในแต่ละงานเป็นกรณีไป" ซีอีโอ Clover Entertainment กล่าว
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน ทางเอเจนซีที่เกาหลีมีครีเอเตอร์อยู่ในสังกัดราว 5,000 คน มีเครือข่ายครีเอเตอร์ระดับแถวหน้ามากกว่า 1,500 คน ซึ่งในจำนวนนี้ติดอันดับท็อป 100 ของโลกถึง 64 คน และยังเป็นท็อป 3 ของครีเอเตอร์ระดับโลก ยกตัวอย่าง เช่น คูฮยอนโฮ (Ku Hyunho) ชเวซีวอน (Choi Siwon) อีอินฮวา (Lee Inhwa) อีอินจู (Lee Inju) รวมถึง อีชียอง (Lee Si-Young) ผู้ได้รับฉายาว่าไอคอนแห่ง TikTok เกาหลี
นอกจากนี้ ทางเอเจนซียังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง Kiwe Lab ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเนื้อหาขนาดสั้น (short-form content) และการตลาดดิจิทัล ทำให้ Clover Entertainment สามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ สร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น เป็นไวรัล สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ของอินฟลูเอนเซอร์ ตอบโจทย์แบรนด์ โดนใจกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ธุรกิจเติบโตได้ถึง 300% ในปี 2566 และ 400% ในครึ่งปีแรกของปี 2567 ครองส่วนแบ่งตลาดในด้าน TikTok Live Commerce อันดับ 1 ในเกาหลีใต้ และเติบโตเร็วที่สุดในโลกในธุรกิจประเภทเดียวกัน ยกตัวอย่างคลิปที่เป็นกระแสไวรัลล่าสุดผ่าน TikTok คือ คลิปเต้นน่ารักๆ ของเชียร์ลีดเดอร์สาวๆ นั่นเอง
"เราตั้งเป้าที่จะพัฒนาผลักดันครีเอเตอร์ในไทยเบื้องต้นจำนวน 100 คน ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนติดต่อเจรจากันแล้วเรียบร้อย พร้อมทั้งมีแผนที่จะร่วมมือกับทางพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในไทยเพิ่มมากขึ้น และยังตั้งเป้าอีกด้วยว่าภายในสิ้นปี 2025 เอเจนซีของเราจะมีเหล่าบรรดาครีเอเตอร์ไทยอยู่ภายใต้สังกัดไม่ต่ำกว่า 2,000 คน" ปาร์ค อิลซอ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดตัว YouTube Shopping ในไทยแล้ว โปรแกรมแอฟฟิลิเอตร่วมกับ Shopee คนดูได้ช็อป-ครีเอเตอร์มีช่องทางหารายได้เพิ่ม
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine