เซ็นทรัล รีเทล ครึ่งปีแรก 2567 โตต่อเนื่อง กวาดรายได้ 130,424 ล้านบาท เติบโต 6% YoY กำไรสุทธิ 3,830 ล้านบาท เติบโต 3% YoY ปิดดีลกลุ่มธุรกิจสปอร์ต พร้อมลุยธุรกิจครึ่งปีหลัง รับไฮซีซั่น-เศรษฐกิจเวียดนามบูม
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ยังโตต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรก 2567 กวาดรายได้อยู่ที่ 130,424 ล้านบาท (+6% YOY) และกำไรสุทธิ 3,830 ล้านบาท (+3% YOY)
ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ทิศทางยังเป็นบวก โดยทำรายได้ 63,169 ล้านบาท (+5% YOY) กำไรสุทธิ 1,660 ล้านบาท (+6% YOY) อันเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ที่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งการมีอีโคซิสเต็มที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการขยายพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มธุรกิจหลักครอบคลุมทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี”
ในส่วนครึ่งปีหลัง 2567 เซ็นทรัล รีเทล มั่นใจเร่งเดินหน้าธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยมีแนวทางในการดำเนินงานเพื่อสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมรองรับช่วงไฮซีซั่น และนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนี้
1.เดินหน้าเสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจสปอร์ต โดยเข้าสู่ธุรกิจ Performance Sports อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเข้าไปซื้อธุรกิจ โดยถือหุ้นใหญ่เป็นสัดส่วน 75% ของ Rev Edition ซึ่งบริหารแพลตฟอร์มธุรกิจใน 3 แกนหลัก ได้แก่
-การเป็น Exclusive Brand Distributor ของแบรนด์สินค้ากลุ่ม Sports Performance & Lifestyle ชั้นนำ เช่น Hoka, Saucony และ Teva
-ร้านค้าปลีกในเครือข่ายกว่า 150 สาขา ประกอบด้วยร้าน Rev Runnr (No.1 Running Specialty Store) และร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ภายใต้การบริหารของ Rev Edition ในประเทศไทยและมาเลเซีย พร้อมมีแผนที่จะเปิดสาขาแรกที่สิงคโปร์ในปี 2568 นี้
-Running Sport Community โดยต้องการส่งเสริมศักยภาพ และผลักดันให้นักวิ่งทั่วประเทศไทยที่มีอยู่หลายล้านคน ได้มีการพัฒนาทักษะการวิ่ง และมี Performance ที่ดีขึ้น ผ่านการเข้าร่วมงานวิ่งต่างๆ และการจัดกิจกรรมมากมาย
ซึ่งการเข้าซื้อธุรกิจ Rev Edition ในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยเสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจกีฬาของเซ็นทรัล รีเทล และต่อยอดซูเปอร์สปอร์ต ให้เป็นผู้นำด้านกีฬาอย่างครบวงจร โดยเซ็นทรัล รีเทล มั่นใจว่าการบริหารงานร่วมกับ Rev Edition จะสร้างการเติบโตร่วมกัน และตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ผู้นำด้านรองเท้าวิ่งในประเทศไทย
2. พัฒนาธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขยายสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิมประเทศไทย
-รีโนเวทห้างเซ็นทรัล ชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination และได้เปิดตัวโซนใหม่อย่าง Luxe Galerie และ Beauty Galerie ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมเตรียม Grand Opening ห้างเซ็นทรัล ชิดลม โฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปีนี้
-ตอกย้ำความเป็นผู้นำเบอร์ 1 Omnichannel DIY Home Retailer ด้วยการขยายไทวัสดุเพิ่ม 4 สาขา ทำให้ปิดปีด้วยจำนวน 89 สาขา และเร่งเครื่องโก โฮลเซลล์ ด้วยการขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้จะมีโก โฮลเซลล์ ทั้งหมด 10 สาขาทั่วไทย
-เสริมแกร่งซูเปอร์สปอร์ต ผู้นำธุรกิจค้าปลีกร้านกีฬา Multi-brand อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์สปอร์ต New Look ที่สาขาเซ็นทรัล ชิดลม ซึ่งมีการอัพเกรดเป็น Completed Sports Store แห่งเดียวในประเทศไทย และมีโซนรองเท้ากีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครบครันทุกแบรนด์และทุกบริการ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง ภายใต้คอนเซปต์ Move You, Move Sports ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
-ธุรกิจในประเทศเวียดนาม หลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมี GDP สูงถึง 6.9% ในไตรมาส 2 และเวียดนามเริ่มมีการอนุมัติโครงการต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ เซ็นทรัล รีเทล ก็ได้เตรียมเดินหน้าขยายสาขาทั้งศูนย์การค้า GO! และ ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! อีก 3 สาขาในปีนี้ ทำให้จะปิดปีด้วยจำนวน 42 สาขา พร้อมทั้งเตรียมรีโนเวทอีก 2 สาขาใหญ่ ได้แก่ สาขา Thang Long ในเมืองฮานอย และ Dong Nai ในเมืองโฮจิมินห์ เพื่อรองรับเทศกาล Tet (เทศกาลตรุษจีนของเวียดนาม) ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
3. ผลักดันยอดขายให้เติบโตในทุกช่องทาง พร้อมยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ ครบครัน และบริการที่ดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชแนลสูงถึง 19% ของยอดขายทั้งหมด และเพิ่มกำไรอย่างต่อเนื่อง
4. บริหารธุรกิจอย่างระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจผันผวน ด้วย Resilient Ecosystem และกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความคล่องตัว ซึ่งด้วยหลักการบริหารงานดังกล่าว ทำให้เซ็นทรัล รีเทล สามารถรักษาอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ "AA-" ด้วยแนวโน้ม "Stable" หรือ “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ถึง 2 ปีซ้อน
5. เสริมแกร่งศักยภาพให้พนักงาน ด้วย AI และเทคโนโลยีต่างๆ บนกลยุทธ์ HAI (Human Intelligence + Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และผลักดันองค์กรเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
“นอกจากผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก เซ็นทรัล รีเทล ยังได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งระดับโลก การันตีด้วยการคว้ารางวัลชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมในทุกมิติธุรกิจ นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังติดอันดับ 2 ในกลุ่มบริษัทค้าปลีกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับ “FORTUNE Southeast Asia 500” ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรและพนักงานทุกคนอีกด้วย” นายญนน์ กล่าวปิดท้าย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ Q2/67 กำไร 2 พันล้าน เติบโต 43.5% YoY ผลค้าส่ง-ค้าปลีกโต และขยายสาขา
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine