โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ สาขาทองหล่อ ทุ่มเงินเฉียด 50 ล้าน นำเทคโนโลยีสุดทันสมัยอย่าง เครื่อง MRI และ CT Scan ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ‘Pet Parents’ ที่รักสัตว์เลี้ยงเสมือนลูก ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้การรักษา วินิจฉัยโรค มีความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย พร้อมเชื่อมต่อระบบ AI วิเคราะห์ภาพก่อนทำการผ่าตัด ช่วยลดเวลาการตรวจจากเดิม 1-2 ชั่วโมง ให้เหลือเพียงแค่ 30 นาที
สพ.ญ. ทัศวรินทร์ กาญจนฉายา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ กล่าวว่า ตลาดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในปี 2568 น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น อาหารสัตว์ 59% อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง 31% การดูแลสุขภาพ 9% และอื่นๆ อีก 1% ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงจะเห็นได้ว่าเทรนด์การเลี้ยง ‘แมว’ มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น 15% เทียบเป็นสัดส่วนความนิยม สุนัข 60% และแมว 40% โดยเป็นผลมาจากไลฟ์สไตล์คนเมืองที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรือบ้านมีพื้นที่น้อยลงดังนั้นการเลี้ยงแมวจึงน่าจะตอบโจทย์กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ได้ง่ายกว่า
ทั้งนี้ จากเดิมในอดีตผู้คนนิยมเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ‘สุนัข’ เอาไว้เฝ้าบ้าน แต่ทว่า ปัจจุบันความนิยมดังกล่าวได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะผู้คนหันมาให้ความสำคัญในการเลี้ยงสัตว์เปรียบเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวมากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นผลให้ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจากการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงใส่ใจเรื่องการดูแลนับตั้งแต่เกิด เติบโต หรือเจ็บป่วยด้วยเช่นกัน
“เราก่อตั้งโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ จากความตั้งใจที่มอบการดูแลรักษาที่ดีที่สุดและเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงควรได้รับการดูแลเทียบเท่ากับมนุษย์ ด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานระดับสูง ผสานความใส่ใจอย่างมืออาชีพ โดยศูนย์รังสีวินิจฉัยใหม่ ณ สาขาทองหล่อ เราได้ทุ่มเงินลงทุนเครื่องตรวจ MRI 1.5 Tesla เป็นจำนวน 35 ล้านบาท , เครื่อง CT Scan ที่ให้ความละเอียดสูง เป็นจำนวนกว่า 10 ล้านบาท พร้อมระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ภาพ ช่วยลดเวลาการตรวจจาก 1-2 ชั่วโมง ให้เหลือระยะเวลาสั้นลงเพียง 30 นาที และยังช่วยลดการวางยาสลบที่อาจซ้ำซ้อนเกินความจำเป็น และยังออกแบบให้ระบบดังกล่าวเชื่อมต่อกับห้องผ่าตัดได้โดยตรง ช่วยให้สามารถส่งต่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งเรายังมีทีมสัตวแพทย์เฉพาะทางจากหลากหลายสาขา (Multidisciplinary)เพื่อให้การดูแลรักษาครอบคลุมทุกมิติด้านสุขภาพ” สพ.ญ. ทัศวรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ ราคาสำหรับการใช้เครื่อง MRI จะอยู่ที่ครั้งและ 24,000 บาท เครื่อง CT Scan อยู่ที่ 8,500 บาท โดยผู้บริหารของโรงพยาบาล ยังบอกด้วยว่า ถือเป็นอัตราค่าบริการตามปกติทั่วไป ซึ่งกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่จะเป็นเคสหนักที่สัตว์เลี้ยงป่วยถึงขึ้นต้องใช้เครื่องสแกนตรวจโรคและผ่าตัด โดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยรุ่นใหม่นี้จะมีส่วนช่วยวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว ปลอดภัย เสมือนการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับมนุษย์ ช่วยรักษาการผ่าตัดของสัตว์เลี้ยงให้กลับมามีสุขภาพดีแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
“ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ง่ายๆ คือ เราเริ่มเปิดใช้เครื่อง MRI ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการใช้เครื่องเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคให้แก่สัตว์เลี้ยงไปแล้ว 15 เคส ช่วยให้สัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมว หรือน้องหมาชิวาว่า หายป่วยจากอาการสมองบวมน้ำ ให้กลับมามีสุขภาพดีตามเดิมได้ถึง 10 เคส เป็นต้น โดยเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด เพราะการเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหรือคนในครอบครัว หากสัตว์ป่วย เราก็ยังจำเป็นต้องดูแลรักษาให้ดีเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการให้บริการรักษาดูแลสุขภาพแล้ว ทางโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Pet Parents ยุคใหม่ ด้วยบริการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ทั้ง Pet Pool สระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง และ Pet Park พื้นที่ออกกำลังกาย ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย โดย ปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 5 สาขา ได้แก่ ทองหล่อ, หลังสวน, เพชรเกษม, ภูเก็ต และเชียงใหม่ มีคุณหมอพร้อมให้บริการจำนวน 50 ท่าน และพนักงานอีก 250 ราย ซึ่งในอนาคตทางโรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา ในโซนลาดพร้าว-ประดิษฐ์มนูธรรม และรังสิต รวมถึงจะมีการแตกไลน์เป็นแบรนด์อื่นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ภาพ : โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เจาะอินไซต์ ‘ทาสหมา-แมว’ สู่ 5 ธุรกิจขาขึ้นในตลาดสัตว์เลี้ยง ‘โรงพยาบาล-อีเวนต์-โรงแรม-บัตรเครดิต-ประกัน’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine