อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) นำเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่แก่สมาชิกบัตรแพลทินัมเพิ่มเติมหลังใช้จ่ายสูงกว่าบัตรเครดิตอื่น 3.5 เท่า โดยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้กลุ่มสมาชิกระดับพรีเมี่ยมหันมานิยมท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านไลฟ์สไตล์หรูหรามากยิ่งขึ้น
พร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภค จากเดิมกลุ่มลูกค้าท็อปเทียร์ของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ระดับบัตรแพลทตินัม ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและมีไลฟ์สไตล์หรูหราชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวช็อปปิ้งในต่างประเทศได้หันมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการหันมานิยมท่องเที่ยวพักผ่อนตามโรงแรงหรูในเมืองไทย จับจ่ายใช้สอยด้วยร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ในไทยมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ ทางบริษัทจึงยกระดับสิทธิประโยชน์ของบัตรแพลทตินัมในประเทศไทยให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มสมาชิกได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ด้วย Global Dining Credit การรับเครดิตเงินคืนสำหรับทานอาหารมูลค่า 14,000 บาท สำหรับร้านอาหารทั่วโลกกว่า 1,400 แห่ง โดยแบ่งเป็นเครดิตมูลค่า 7,000 บาท สำหรับร้านอาหารในประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร Fine Dining ระดับ Michelin-stared อาทิ Blue Elephant, Suhring, และ Paste รวมถึงอีก 7,000 บาท สำหรับร้านอาหารชื่อดังในต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ในส่วนของโรงแรมที่พักและร้านอาหารใหม่เพิ่มเติมในรายการ Platinum 1 for 1 ซึ่งมีโรงแรมระดับ 5 ดาว อีก 2 แห่งเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด มัลดีฟส์ โดยสมาชิกบัตรจะได้เข้าพักฟรี 1 คืน จากทุกๆ 1 คืนที่มียอดการจ่ายชำระค่าห้องพัก เป็นต้น
“นับตั้งแต่ปี 2560-2564 เป็นต้นมา เราขยายฐานร้านค้าที่รับบัตร AMEX ทั่วโลกได้ถึง 164% คิดเป็นจำนวนกว่า 66 ล้านแห่ง ให้สามารถรองรับกลุ่มสมาชิกทั้งหมดจากทั่วโลกที่มีอยู่ 122 ล้านราย โดยกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกของบัตร AMEX ในไทยมีกำลังซื้อสูงกว่าบัตรเครดิตอื่นๆ มากถึง 3.5 เท่า อีกทั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า กลุ่มสมาชิกผู้ใช้บัตรเครดิตดังกล่าวกลายเป็นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จากเดิมที่มีช่วงอายุ 40 ปีขึ้น” พร้อม กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่สำหรับบัตรแพลทตินัมนั้นมีมูลค่ารวมกันมากกว่าค่าธรรมเนียมรายปีที่สมาชิกต้องจ่ายปีละ 35,000 บาท ถึง 3 เท่า ซึ่งนโยบายการบริหารธุรกิจของ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ยังคงยึด 3 แนวทางหลักได้แก่ 1. เน้น product สินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 2. ให้บริการที่ดีที่สุด ยกตัวอย่าง เช่น การให้บริการผ่าน Call Center ที่ยังคงใช้พนักงานพูดคุยรับฟังปัญหาจากกลุ่มลูกค้าแทนการใช้ระบบอัตโนมัติ และ 3. เป็นพันธมิตรกับร้านค้าต่างๆ เพื่อให้สมาชิกของบัตรใช้บริการในประเทศไทยได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม: ITTHI ดันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าตลาดฯ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine