“สยามเฮลท์ กรุ๊ป” งัดกลยุทธ์ชุดใหญ่ฝ่าวิกฤตโควิด พลิกคอนเซ็ปต์ใหม่ “Dentiste' Premium Care” เตรียมอัดงบการตลาดก้อนโต ออกสินค้าใหม่ ลุยช่องทางออนไลน์ - TV Shopping เผยคู่แข่งหน้าใหม่แห่รุกตลาดเกือบ 60 ราย
เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ สยามเฮลท์กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม “เดนทิสเต้” (Dentiste') เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงปี 2564 ทำให้การแข่งขันในตลาดสินค้ารุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมาตรการคุมเข้มของภาครัฐทำให้กลุ่มลูกค้าหายไปจากช่องทางการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ขณะที่ตลาดยาสีฟันยังมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่า จากเดิมมีคู่แข่งประมาณ 10 ราย ล่าสุดพุ่งพรวดมากถึง 50-60 ราย ทำให้ Dentiste' ต้องเน้นกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงมากทำให้ผู้คนไม่สามารถไปพบทันตแพทย์และเลือกวิธีการดูแลตัวเองด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่ดี เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับจุดแข็งของแบรนด์ Dentiste' ในฐานะยาสีฟันเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการครบทุกด้าน ล่าสุด Dentiste' ตัดสินใจทุ่มงบจ้างทีมที่ปรึกษาระดับโลก ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Best Moment” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Dentiste' ปรับรูปแบบใหม่ จากเดิมเป็นยาสีฟันก่อนนอนในหนังโฆษณาชุดเก่า “Bed moment” พลิกคอนเซ็ปต์สื่อสารความเป็นผลิตภัณฑ์ Dentiste' Premium Care เพื่อขยายฐานและเดินหน้าพาแบรนด์ Dentiste' เข้าไปในหลายๆ ประเทศ มุ่งสู่ระดับโลกสำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุด “Best Moment” เราจะได้เห็นพรีเซนเตอร์คู่รัก ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต และ น็อต-วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์ ใน Moment ที่ไม่เคยได้เห็นที่ไหน เน้นความสนุกไม่น่าเบื่อ และตอกย้ำประสิทธิภาพการดูแลช่องปากของยาสีฟันเดนทิสเต้ที่เหนือกว่าแบรนด์ทั่วไป โดยเฉพาะการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากที่มีมากถึง 2 หมื่นล้านตัว และมีความหลากหลายกว่า 500-650 ชนิด ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆในช่องปาก เช่น Streptococcus mutans, Streptococcus sobrinus, lactobacilli ก่อให้เกิดฟันผุ Pseudomonas aeruginosa, Lactobacillus casei ต้นเหตุของการเกิดเหงือกอักเสบ Porphyromonas gingivalis Aggregatibacte ractinomycetemcomitans ต้นเหตุของโรคปริทันต์ ทั้งนี้ เดนทิสเต้มี Probiogenesis ปรับสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยขัดขวางการทำงานของแบคทีเรียที่ไม่เป็นมิตร CPC ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดโรคฟันผุและเหงือกอักเสบ Zinc ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น กำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดกลิ่นปาก ปกป้องนาน 12 ชั่วโมง Sodium Fluoride Remineralization 1100 PPM ปริมาณที่ทันตแพทย์แนะนำคืนแร่ธาตุสู่ผิวฟัน ป้องกันฟันผุ ที่สำคัญ มี 14 Natural Extracts มีฤทธิ์เป็น Antiseptic และ Antibacteria ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากยาวนานตลอดคืน ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่นมั่นใจในยามเช้า “เราต้องการสื่อสารนวัตกรรมใหม่ คอนเซ็ปต์ใหม่ เจาะกลุ่มคน Gen Y ขยายฐานจากกลุ่ม Gen X ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่ใช้เดนทิสเต้เป็นประจำอยู่แล้ว โดยกระตุ้นความสนใจตัวแบรนด์ Dentiste' Premium Care ยาสีฟันนวัตกรรมสูงและเป็น Complete Care แบบ All in one ใช้ครั้งแรกจะรู้สึกประทับใจ สร้าง Best Moment เสริมความมั่นใจกับการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อมีสุขภาพช่องปากสะอาด ไร้กลิ่น และยังเป็นผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่อันตราย” เภสัชกร ดร.แสงสุข มั่นใจว่า Dentiste' Premium Care จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและเป็นตัวชูโรงประเดิมแผนผลักดันยอดขายในปี 2564 ตามเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 หลังจากปี 2563 เจอสถานการณ์โควิดและกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวหายไปเป็นศูนย์ โดยหลังจากนี้เตรียมอัดงบโฆษณาจำนวนมากและเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าหลากหลายมากขึ้นและเน้นจำหน่ายสินค้าเป็นเซ็ต นอกจากนี้ จะขยายช่องทางการขายรูปแบบออนไลน์และ TV Shopping ซึ่งประสบความสำเร็จมากในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพราะรูปแบบการขายน่าสนใจ สามารถสร้าง Value สินค้า ทำให้คนซื้อเห็นคุณค่าของสินค้าจริงๆ สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้ายุคโควิดที่คนอยู่บ้านกันมากขึ้น ดูโทรทัศน์ ใช้อินเทอร์เน็ตและนิยมซื้อของออนไลน์มากขึ้น สำหรับปัจจุบัน ภาพรวมผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์ มีมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท เติบโตประมาณร้อยละ 3 ต่อปี โดยกลุ่มยาสีฟัน หมื่นล้านบาทเป็นเซ็กเมนต์ใหญ่ที่สุด และยาสีฟันพรีเมี่ยมยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่ง Dentiste'อยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมียม เจาะกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ยินดีจ่ายสำหรับสินค้าที่ดี อ่านเพิ่มเติม: อนันทา ปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ ถ่ายทอดประสบการณ์ธุรกิจครั้งใหม่ที่สั่งสมมากกว่า 30 ปีไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine