รายงานจาก The 1 Insight เผย "คนรวยยุคใหม่" คือตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคต - Forbes Thailand

รายงานจาก The 1 Insight เผย "คนรวยยุคใหม่" คือตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคต

The 1 แพลตฟอร์ม loyalty จากเครือเซ็นทรัล เปิดตัวรายงานเจาะลึก ชี้ New Wealth หรือ คนรวยยุคใหม่ จะเป็นตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคต

นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์ม loyalty ที่ขึ้นชื่อได้ว่าประสบความสำเร็จรายหนึ่งในไทยแล้ว The 1 จากเครือเซ็นทรัล ยังต่อยอดไปสู่การทำรายงานวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจสมาชิกกว่า 16 ล้านคนของ The 1 และเกิดเป็นรายงานฉบับล่าสุดอย่าง The 1 Insight

ดร.ธรรม์ จิราธิวัฒน์ ประธาน The 1 กล่าวถึงที่มาของ The 1 Insight ว่า จากความเข้าใจที่เกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค ทำให้เราเห็นทุกการใช้ชีวิตของสมาชิกแบบรอบด้าน 360 องศา (Single View of Customer) จนเรียกได้ว่า The 1 รู้พฤติกรรมเชิงลึก หรืออินไซต์ (Insight) ของผู้บริโภคที่แท้จริงอย่างลึกซึ้ง

ในวันนี้เราได้นำความเชี่ยวชาญนี้มาจัดทำเป็น ‘The 1 Insight’ อินไซต์รีพอร์ตที่เผยพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันแบบเจาะลึก ที่จะกลายเป็นคู่มือสำคัญให้ทุกธุรกิจสามารถเข้าใจผู้บริโภค จนสามารถวางแผนและสร้างประสบการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

ดร.ธรรม์ จิราธิวัฒน์

โดย The 1 Insight มีจุดเด่นที่ความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ ที่ไม่ใช่แค่วิเคราะห์ความสนใจ (Interests) ที่เกิดขึ้น แต่วิเคราะห์จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง (Real Behavior) ร่วมกับข้อมูลที่น่าสนใจจากบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งครอบคลุมในทุกประเภทธุรกิจ นำมาวิเคราะห์ให้เข้ากับบริบทของสังคมไทยปัจจุบัน (Localization)

สำหรับ The 1 Insight ฉบับแรกนี้เป็นเรื่อง “New Wealth” หรือคนรวยยุคใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงและทุกธุรกิจให้ความสนใจ โดยคำว่า New Wealth  หมายถึงพฤติกรรมของคนรวยในยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีและดิจิทัลดิสรัปชั่นทำให้พวกเขามีทัศนคติและวิถีชีวิตแตกต่างไปจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเครื่องแสดงสถานะที่จากเดิมวิถีคนรวยเป็นเรื่องวัตถุนิยม และยึดติดกับคำว่าฉันมีอะไรหรือฉันเป็นใครแต่ New Wealth คือการให้ความสำคัญกับนิยามความเป็นตัวของตัวเองว่าฉันให้คุณค่ากับอะไร 

นอกจากนี้ New Wealth จะเป็นกลุ่มคนที่เติบโตขึ้นมาเป็นผู้มีอำนาจในการซื้อสินค้าหลักของตลาด จากข้อมูลสมาชิก New Wealth ของ The 1 พบว่า ในปี 2019 มีสมาชิกที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสูง ช่วงอายุน้อยกว่า 45 ปี มากถึง 47% ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2017 ขึ้นมา 4% และมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกนัยหนึ่งคือคนกลุ่มนี้จะเป็นตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคต 

ทั้งนี้ The 1 พบ 3 ข้อมูลที่น่าสนใจของกลุ่ม “New Wealth” ประจำปี 2019 และ 2020 ที่ทุกธุรกิจไม่ควรพลาด ได้แก่

1.Re-defining Luxury นิยามใหม่ของคำว่า ‘ลักชัวรี่’ ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อคนรวยเปลี่ยนวัฒนธรรมความรวยก็เปลี่ยนไปด้วย เช่น การช็อปสินค้าลักชัวรี่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแบบเดิม แต่หันมาเลือกช็อปผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ Omnichannel Platform มากขึ้น แม้แต่แบรนด์ไฮเอนด์ก็ปรับลุคให้ต่างจากเดิม

2.More on Experience การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการจับจ่าย ที่ต้องมากกว่าและดีกว่ามาตรฐานทั่วไป แบบไม่จำกัดราคา ทั้งการรับประทาอาหาร Street Food ในห้างแบบไม่ต้องร้อน งานอดิเรกที่หลงใหล หรือบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างวีไอพีเลาจน์ บริการผู้ช่วยช็อปปิ้ง หรือบริการ Omnichannel ที่ Personalized ตามความต้องการของแต่ละคน

3.Smart Wealth ที่ไม่ใช่แค่ “ใช้เงินเก่ง” แต่ต้อง “ใช้เงินเป็น” ทุกการจับจ่ายและสิทธิพิเศษต้องตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าที่สุด

ธีรพล ไทยหิรัญ Head of The 1 Data & Insight กล่าวว่า จากข้อมูลสมาชิกกลุ่ม New Wealth ของ The 1 พบว่า กลุ่ม New Wealth เป็นผู้กำลังซื้อสูง โดยมีพฤติกรรมช็อปปิ้งสินค้าและบริการทุก 5 วัน หรือมากกว่าสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ถึง 3.5 เท่า สอดคล้องกับยอดใช้จ่ายเฉลี่ย ที่พบว่าสมาชิกกลุ่มนี้มียอดที่สูงมากกว่าสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

ธีรพล ไทยหิรัญ

แน่นอนว่าด้วยตัวเลขที่น่าสนใจขนาดนี้ ทำให้ New Wealth กลายเป็น Potential Customers กำลังซื้อสูงที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความสำคัญ จากตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ที่ทุกธุรกิจปฏิเสธไม่ได้ว่า New Wealth เป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่ธุรกิจต้องตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปให้ทัน เข้าใจและทำการตลาดให้ตรงจุด ซึ่ง The 1 Insight ได้รับความร่วมมือจาก Pulse Metrics บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านบิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีผลงานมายาวนาน และยังมีผลงานเป็นอันดับต้น ของเอเชีย มาช่วยเสริมการทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีด้าน AI จึงยืนยันได้ว่ามีความแม่นยำ เชื่อถือได้ และนำมาปรับใช้ได้จริง

  อ่านเพิ่มเติม  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine