ซีพี แอ็กซ์ตร้า โดยแม็คโคร ยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าและสังคมไทย ตอกย้ำผู้นำธุรกิจค้าส่งในทุกมิติ ทั้งด้านราคา คุณภาพสินค้า และการพัฒนาธุรกิจเพื่อลูกค้าเติบโตไปด้วยกัน ปีนี้ครบรอบ 34 ปี จัดแคมเปญยิ่งใหญ่ต่อเนื่องทั้งปี เพื่อขอบคุณกับทุกความไว้วางใจ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “ขอบคุณ 34 ปี แม็คโคร โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน” ตลอดเดือนกันยายนนี้ พร้อมตอบแทนสังคมผ่านโครงการ “อาหารอิ่มสุข” ส่งมอบอาหาร 3.4 ล้านมื้อแก่เยาวชนและผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ
ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารธุรกิจค้าส่ง แม็คโคร เปิดเผยว่า “แม็คโครอยู่คู่กับลูกค้าและชุมชนมากว่า 34 ปี เคียงข้างผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งร้านโชห่วย ร้านอาหาร ธุรกิจเอสเอ็มอี และเกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ในโอกาสครบรอบปีนี้ จึงจัดแคมเปญ “ขอบคุณ 34 ปี แม็คโคร โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน” ผ่านการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ภายใต้แนวคิด “ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราไม่หยุดพัฒนา” เล่าจากประสบการณ์จริงของพนักงานแม็คโคร และลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหาร ที่ตามหา “มะละกอแขกดำ” วัตถุดิบหลักในการทำส้มตำให้อร่อย เนื้อหาของภาพยนตร์แสดงถึงความมุ่งมั่นของพนักงานแม็คโครที่จะช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าดีขึ้น ออกอากาศตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2566 ผ่านช่องทางสื่อทีวีหลัก และสื่อออนไลน์ หรือติดตามชมได้ที่ยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=YUMv5oHbNqE
พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า แม็คโครจัดแคมเปญ “เหมาความคุ้มถล่มเมือง ซื้อยกลังยิ่งคุ้ม” เพื่อผู้ประกอบการร้านค้าปลีกและโชห่วย พร้อมด้วย “คุ้มสี่ภาค” ขนทัพสินค้ามาลดราคาพิเศษสำหรับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ตอกย้ำตัวจริงราคาค้าส่ง
นอกจากนี้ แม็คโครได้ยืนหยัดเคียงข้างชุมชนและสังคมไทยมาตลอด 34 ปี โดยดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนทุกมิติ ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยปีนี้แม็คโคร-โลตัสร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “อาหารอิ่มสุข” เพื่อส่งมอบอาหาร 3.4 ล้านมื้อทั่วประเทศ สนับสนุนให้เยาวชนเข้าถึงอาหารดีมีประโยชน์ พร้อมสานต่อโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” โดยมีเป้าหมายสร้างงานสร้างอาชีพให้ชุมชนรวม 400,000 ราย ภายในปี 2573
อ่านเพิมเติม : เอ็มจี เปิดตัว MG CYBERSTER ครั้งแรกในจีน ที่ เฉิงตู ออโต้ โชว์ 2023
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
