เมเจอร์ฯ จับมือ ไอ-เทล ผุดโรงหนัง PET Friendly แห่งแรกในไทย คาดขายตั๋วสำหรับสัตว์เลี้ยง 3 ล้านใบต่อปี - Forbes Thailand

เมเจอร์ฯ จับมือ ไอ-เทล ผุดโรงหนัง PET Friendly แห่งแรกในไทย คาดขายตั๋วสำหรับสัตว์เลี้ยง 3 ล้านใบต่อปี

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จับมือ ไอ-เทล ผุดโปรเจกต์โรงหนัง PET Friendly แห่งแรกในไทย โดยเริ่มต้นนำร่องใน 3 สาขา มั่นใจรายได้ปี 2567 จะฟื้นกลับมา 100% พร้อมคาดตั๋วหนังสำหรับสัตว์เลี้ยงจะขายได้ 3 ล้านใบต่อปี


    นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ฯ เตรียมขยายโรงหนังในปี 2566 เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 50-60 จอ และมั่นใจว่าในปีหน้าสถานการณ์รายได้จะกลับมา 100% เทียบเท่าก่อนโควิด-19 ที่ทำรายได้รวมขณะนั้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งล่าสุดเดือนพฤษภาคมนี้สามารถทำรายได้กลับคืนมาแล้ว 85% หรือช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาปีนี้ทำได้เฉลี่ย 70% แล้วจากปีก่อนโควิด

    ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะทำรายได้ตามเป้าได้อย่างแน่นอน เนื่องจากในปีนี้มีหนังฟอร์มใหญ่ไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท เป็นจำนวนมากที่จะเข้าฉายในโรงซึ่งมากกว่าปีที่แล้วเกือบ 30% อีกทั้ืงผู้บริโภคได้เริ่มกลับมาดูหนังในโรงหนังมากขึ้นนีบจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลง 

    ประกอบกับการจัดกิจกรรมการตลาดและการเปิดตัวนวัตกรรมต่อเนื่องในวงการภาพยนตร์ของเมเจอร์ฯ โดยล่าสุดได้ร่วมกับ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ITC ผู้นำการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก เปิดตัว “i-Tail PET CINEMA” โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมว หรือ PET Friendly แห่งแรกในประเทศไทยที่พร้อมต้อนรับเจ้าของและน้องหมา น้องแมว เข้ามาร่วมดูหนังด้วยกัน 


    พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เฉพาะ 3 สาขา ที่ โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์, อิสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ และ เมเจอร์ ซีนีม่า โรบินสันราชพฤกษ์ เนื่องจากทั้่งสามศูนย์การค้านี้เป็น PET Friendly เช่นกัน

    สำหรับราคาบัตร จะเป็นราคาปกติสำหรับคน ส่วนสัตว์เลี้ยงคิดราคา 90 บาทต่อรอบ คาดว่าจะทำยอดขายตั๋วได้ 3 ล้านใบต่อปี ใกล้เคียงกับโรงหนังเด็กคิดส์ซีนีม่าที่เปิดาแล้ว 12 โรง จากปัจจุบันเมเจอร์ฯ มีโรงหนังในไทย 172 สาขา จำนวน 800 จอ และในต่างประเทศ จำนวน 9 สาขา จำนวน 46 จอ

    ขณะที่ พิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดรวมอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยมีมากกว่า 50,000 ล้านบาท เติบโต 10-12% ต่อปี ซึ่งมากกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโลกที่มีเพียง 7% ต่อปีเท่านั้น 


    ด้วยอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดสัตว์เลี้ยงที่โตทะลุหมื่นล้านบาทและมูลค่ายอดใช้จ่ายของเจ้าของสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยต่อคนที่สูงถึง 10,000 - 20,000 บาทต่อปี ส่งผลทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตไปด้วย ซึ่งไอ-เทลเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถตอบรับกับเทรนด์ Pet Humanization ได้เป็นอย่างดี

    นี่จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ “i-Tail Pet Cinema” ที่ถือว่าเป็นโปรเจกต์แรกที่ ไอ-เทล ต่อยอดจากธุรกิจการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ร่วมจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งอย่าง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านโรงภาพยนตร์ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ตอกย้ำจุดยืนของบริษัทที่เอาความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ (Pet Centric) และเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่หมาแมวยุคใหม่ที่ต้องการใช้เวลาร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก



อ่านเพิ่มเติม: “THAIFEX-ANUGA ASIA 2023” เงินสะพัด 1.2 แสนล้านบาท หนุนส่งออกอาหารไทยปี 66 แตะ 1.5 ล้านล้านบาท


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine