Samsung Electronics รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ลดลงกว่า 35% เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงในธุรกิจหลายกลุ่ม
Samsung Electronics (ซัมซุง) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2566 ลดลงกว่า 35% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก โดยเป็นผลจากความต้องการผู้บริโภคที่ลดลงในธุรกิจหลายกลุ่ม แม้ว่าราคาชิปหน่วยความจำจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ประเมินผลกำไรในไตรมาส 4 ปี 2566 จะลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 3.7 ล้านล้านวอน ลงมาเหลือ 2.8 ล้านล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 74,421 ล้านบาท
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือของซัมซุงมีแนวโน้มว่าการจัดส่งโทรศัพท์รุ่นเรือธงแบบพับได้ 2 รุ่นจะลดลงประมาณ 1 ล้านเครื่องต่อไตรมาส เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้กำไรลดลงเล็กน้อย โดยเหล่านักวิเคราะห์กล่าวว่า แผนกชิปของซัมซุง น่าจะมีการขาดทุนลดลงในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับ 4.36 ล้านล้านวอน และ 3.75 ล้านล้านวอนในไตรมาสที่ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยรายรับจากชิปหน่วยความจำดีขึ้นขณะที่ธุรกิจ DRAM ที่กลับมามีกำไร
อย่างไรก็ตาม ทาง Samsung ยังคาดการณ์ด้วยว่าธุรกิจชิปหน่วยความจำจะค่อยๆ ทยอย ฟื้นตัวได้ในปีนี้ อีกทั้งยังตั้งเป้าที่จะไล่ตามคู่แข่งอย่าง SK hynix ในตลาดชิปหน่วยความจำความหนาแน่นสูงที่กำลังเติบโต โดยมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 2.5 เท่าในปี 2024 โดย HBM ถือเป็นชิปขั้นสูงที่จัดการข้อมูลได้เร็วขึ้น สามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์เช่นตัวเร่งความเร็วของ NVIDIA เพื่อเร่งกระบวนการประมวลผลข้อมูลสำหรับงานที่เข้มข้นเช่นการฝึกโมเดล AI
ทั้งนี้ ทาง Samsung ยังคงมั่นใจด้วยว่าสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ที่สามารถพับได้จะเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตภายในปีนี้ โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายเดือนมกราคม 2567 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนกังวลกับ iPhone 15 ของ Apple ว่าอาจหมดกระแสลงหลังเปิดตัวไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แปลแและเรียบเรียงจากบทความ : Samsung Profit Tumbles 35% as Chip Weakness Persists
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แบงก์กิน “NIM” ผลประกอบการอู้ฟู่ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine