อินเทอร์เน็ตประเทศไทย INET โชว์ศักยภาพทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT ลงทุนในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลดาต้า เซ็นเตอร์ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 มูลค่ารวม 4.3 พันล้านบาท ชูจุดเด่นกองทรัสต์กองแรกของประเทศที่ลงทุนใน Digital Infrastructure Asset
มรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจการให้บริการคลาวด์ โซลูชันส์ (Cloud Solutions) ธุรกิจบริการเชื่อมอินเทอร์เน็ต (Internet Access) และบริการ Co–Location เพื่อเสริมศักยภาพแก่ลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และตอบสนองความต้องการการจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ในยุคดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการลงทุนในระบบคลาวด์ ขณะที่ผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 (ปี 2563) INET มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.8 เป็นอันดับหนึ่งในจำนวนผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ให้บริการคลาวด์ในไทย ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำในประเทศ ภายใต้ศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (INET Data Center) หรือโครงการ INET-IDC ของบริษัท 3 แห่ง ประกอบด้วย INET-IDC1 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ถนนรางน้ำ INET-IDC2 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ INET-IDC3 จังหวัดสระบุรี สำหรับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายการลงทุนในโครงการ INET Data Center อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ INET-IDC 3 จังหวัดสระบุรี เป็นศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งล่าสุดของบริษัทที่มีความทันสมัยระดับโลก มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง ได้รับรางวัล Data Center Service Vendor of the Year 2013 จากบริษัท Frost & Sullivan ซึ่งเป็นองค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก โดยบริษัทเริ่มเปิดให้บริการเฟส 1 ในเดือนมีนาคม 2560 และเฟส 2 (บางส่วน) รวมถึงมีแผนขยายการลงทุนในโครงการ INET-IDC 3 เฟส 2 3 และ 4 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น บริษัทยังได้จัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INET Leasehold Real Estate Investment Trust (INETREIT) เพื่อเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีลูกค้าใช้บริการจากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียง เช่น กลุ่มธนาคาร, เทคโนโลยีไอที, ธุรกิจพาณิชย์ เป็นต้น เนื่องจากศักยภาพของโครงการที่มีมาตรฐานสูง โดยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร และสามารถเชื่อมต่อกับโครงการ INET-IDC 1 และ INET-IDC 2 เพื่อเป็นเส้นทางสำรองในการเข้าถึงข้อมูลหรือสามารถให้บริการอย่างต่อเนื่องแม้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินชูจุดเด่น กองทรัสต์กองแรกในไทย
ด้าน พรวิสาข์ มังกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า INETREIT จะเข้าลงทุนครั้งแรกในอาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ประกอบด้วย การลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคารศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) พื้นที่ประมาณ 1,900 ตารางเมตรและอาคารห้องเครื่องพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร อาคารรับรอง (Customer Center) พื้นที่ประมาณ 1,600 ตารางเมตร รวมทั้ง ทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการ อาคารและส่วนควบของสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ตู้ Rack อุปกรณ์การเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ใช้ในโครงการรวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง (Core Network) จำนวน 492 Rack ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะเวลาการเช่าประมาณ 24 ปี 5 เดือน (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2588) หลังจากกองทรัสต์เข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จะปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ INET เพียงรายเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า โดยค่าเช่าเป็นค่าเช่าคงที่ และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าปีละ 1 ครั้ง ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์มีรายได้มั่นคงและเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยค่าเช่าเริ่มต้นในปี 2564 เท่ากับ 30.928 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนี้กองทรัสต์ได้รับสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 เฟส 3 และ เฟส 4 และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลอื่นๆของ INET เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับจุดเด่นของ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกในไทยที่เข้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในไทยเพื่อรองรับโลกอนาคต ซึ่งกองทรัสต์จะมีรายได้ค่าเช่าที่มั่นคงและสม่ำเสมอและจะได้รับประโยชน์จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) โดยมีฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และบริหารจัดการโดยบริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ และผู้เช่า INET ที่มีความแข็งแกร่งจากการที่มีภาครัฐถือหุ้นอยู่ร้อยละ 49 ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานปี 2561 - 2563 ของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ยังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 462.12 ล้านบาท (เดือนละ 38.51 ล้านบาท) ปี 2562 มีรายได้รวม 865.44 ล้านบาท (เดือนละ 72.12 ล้านบาท) และ 1,123.20 ล้านบาท (เดือนละ 93.60 ล้านบาท) ทั้งนี้ การเข้าลงทุนครั้งแรกของกองทรัสต์ INETREIT มีมูลค่ารวม 4.3 พันล้านบาทจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 330 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท และเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 1 พันล้านบาท โดยปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวน ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับแล้ว อ่านเพิ่มเติม: รู้จัก ‘ETF พลังงานสะอาดจีน’ ที่โตมากกว่า 100% ในรอบ 1 ปีไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine