แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ (Dassault Systemes) บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส เตือนผู้ผลิตรับมือกับคลื่นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ด้วยการปรับตัวสู่ “Experience Economy”
Suchit Jain รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ กล่าวในระหว่างงาน “SOLIDWORKS World 2019” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่ Dallas สหรัฐอเมริกาว่า กระบวนการปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือ “Industry Renaissance” ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “democratization” ของการผลิต ซึ่งหมายถึงการที่คนทุกคนสามารถสร้างสรรค์และผลิตงานได้
“เราได้เห็นการเกิดขึ้นอย่างมากมายของสตาร์ทอัพด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งผมไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเล็กๆ แต่ตอนนี้เรามีสตาร์ทอัพที่ผลิตแม้กระทั่งเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงแล้ว และสตาร์ทอัพเหล่านี้จะท้าทายไปทุกๆ ที่”
เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ เครื่องพิมพ์สามมิติ และซอฟต์แวร์ช่วยการออกแบบและการผลิต ทำให้การทำต้นแบบและการผลิตเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าเดิมมากมาย สร้าง “แรงบันดาลใจในการไปให้ถึงดวงดาว” กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่
นอกจากนี้ทางด้านสังคม เราได้เห็นปรากฏการณ์การเติบโตกว่าเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาของ “FabLab” หรือศูนย์การผลิตในชุมชนที่ใช้เทคโนโลยีกระบวนการการผลิตแบบดิจิทัล (digital fabrication) มาผลิตของที่เดิมต้องใช้โรงงานอุตสาหกรรมผลิตเท่านั้น
Jain กล่าวพร้อมยกตัวอย่าง Vigyan Ashram FabLab ในอินเดียที่ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ได้ประสบความสำเร็จจนบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องขอเข้าไปดูงาน
“ผู้ผลิตดั้งเดิมไม่สามารถทำอะไรแบบเดิมๆ ที่พวกเขาเคยทำได้ พวกเขาควรจับตาดูสตาร์ทอัพให้ดี หรือจัดทำโปรแกรมสนับสนุนสตาร์ทอัพขึ้นมาเอง”
อย่างไรก็ตามผู้บริหารแดสสอล์ทเชื่อว่า สำหรับประเทศเล็กๆ อย่างไทยควรมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสมากกว่า เหมือนกับอินเดียซึ่งมองทุกอย่างว่าสามารถเติบโตได้ในระดับ “exponential” เนื่องจากไม่มีพื้นฐานเดิมมาก่อน
ด้าน Bernard Charles รองประธานและซีอีโอ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า โรงงานในอนาคตควรมุ่งเน้นผลิต “ประสบการณ์” ไม่ใช่โปรดักส์ อย่างเช่นรถยนต์ในอนาคตนั้น คุณค่าของมันในสายตาผู้บริโภคจะไม่อยู่ที่ชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของตัวรถอีกต่อไปแต่จะเป็นความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับบริการในเครือข่าย (connected services) เพราะคนจะไม่ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าของรถยนต์อีกต่อไป
เพื่อรับมือกับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ที่ “ทุกคนเป็นผู้ผลิตได้” แดสสอล์ทได้มีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจที่สำาคัญในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผ่านการเปิดตัวแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ IQMS บริษัทซอฟต์แวร์ ERP สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตขนาดกลาง และการเปิดตัว 3DEXPERIENCE.WORKS เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรุกเข้าสู่ตลาดของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
ทั้งนี้จากรายงานนำเสนอต่อนักลงทุนของแดสสอล์ทระบุว่า แพลตฟอร์มนี้ทำให้ตลาดที่บริษัทสามารถเข้าถึงได้ (addressable market) ขยายวงกว้างขึ้นหนึ่งเท่าตัวเป็นกว่า 1 ล้านล้านบาท
แดสสอล์ทรายงานรายรับรวม 3.48 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท) ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 7.6% และกำไรสุทธิ 811.1 ล้านยูโร เพิ่ม 17.1% จากปีก่อนหน้า
ภาพ: แดสสอล์ท ซิสเต็มส์
คลิกอ่านเรื่องราวทางธุรกิจที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ พฤษภาคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine