คนไทยกว่า 70% ใช้ AI ในชีวิตประจำวัน ชี้สะดวกสบาย ประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - Forbes Thailand

คนไทยกว่า 70% ใช้ AI ในชีวิตประจำวัน ชี้สะดวกสบาย ประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Jul 2024 | 02:40 PM
READ 1025

ในยุคที่กระแส AI มาแรงสุดๆ และเข้ามาเปลี่ยนชีวิตประจำวันของเราให้ล้ำไปอีกขั้น BBDO Bangkok เผยผลสำรวจเจาะลึกความคิดเห็นผู้บริโภคไทยและพฤติกรรมการใช้ AI จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 400 คนในกรุงเทพและหัวเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิด ความเข้าใจที่มีต่อ AI และพฤติกรรมการนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยในปัจจุบัน


    ผลสำรวจการใช้ AI ของคนไทยในปัจจุบันพบว่าปัจจุบัน คนไทย 73.84% ได้ใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิต ด้วยเหตุผลว่า AI ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ช่วยประหยัดเวลา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า คนที่มีรายได้น้อยกว่า 25,000 บาท มีแนวโน้มที่จะใช้ประโยชน์จาก AI น้อยกว่าคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป

    ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังมีคนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก AI อีกกว่า 25% โดยพบว่า เหตุผลของผู้ชายและผู้หญิงที่ไม่ใช้ AI นั้นแตกต่างกันไป โดยเพศหญิงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นเหตุผลหลัก 44.23% ในขณะที่เพศชายกังวลเรื่อง AI มีราคาที่สูงเกิน 32%



สรุปพฤติกรรมการใช้ AI ในแต่ละ Gen

    ผลวิจัยยังบอกอีกว่า แต่ละ Generation ก็มีเรื่องให้ใช้ AI ที่แตกต่างกันไป กลุ่ม Gen Z และ Gen Y ใช้ AI กับการทำงานมากที่สุด (37.5% และ 35.5%) ในขณะที่ Gen X ใช้ AI กับเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งที่ 35.2% (เช่น เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า หรือการตรวจจับอุบัติเหตุในบ้าน) และนอกจากนี้ Gen X ยังมีการใช้ AI เพื่อสุขภาพและการแพทย์เพิ่มเข้ามาใน 3 อันดับแรกอีกด้วย



แบรนด์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI

    Google, Chat GPT และ Samsung ครองสามอันดับแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคไทยนึกถึงเมื่อพูดถึง AI

    Google เป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักและคุ้นชินเป็นอย่างดี อัลกอริทึมของ Google’s Search ที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวันใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงตามความต้องการและใกล้เคียงมากที่สุด และหลังจากเปิดตัว Gemini AI-Chatbot ของ Google ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Google ยังได้มีการนำ AI มาใช้ในบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Gmail, Google Workspace หรือ Google Meet ด้วยเช่นกัน

    Chat GPT หรือ AI Chatbot ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากค่าย Open AI และล่าสุดได้สร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัว Chat GPT-4o โมเดลใหม่ล่าสุดที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น พร้อมเข้าใจและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ทั้งข้อความ ภาพ และเสียงแบบเรียลไทม์



    Samsung ในต้นปี 2024 ซัมซุงเปิดตัว Galaxy AI ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของ Samsung พร้อมฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่างการแปลภาษาแบบเรียลไทม์หรือลบคนออกจากภาพ นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็ไม่น้อยหน้า
มีการนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน อาทิเช่น TV Samsung กับเทคโนโลยี AI Upscaling อัพภาพชัดถึง 8K หรือ AI ในเครื่องซักผ้าอัจฉริยะจาก Samsung กับเทคโนโลยี AI Wash ตรวจจับและแยกชนิดของผ้า ทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และ AI Energy Saving ที่ช่วยประหยัดพลังงานจากการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้ควบคู่กับสภาพแวดล้อมของที่ตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ



การสนับสนุน และข้อกังวลใจต่อ AI ในปัจจุบันและอนาคต

    ผลวิจัยยังพบว่า กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถาม สนับสนุนการมีอยู่และการพัฒนา AI และมองว่า AI จะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตอย่างมากในอนาคต 5 ปีข้างหน้า ในส่วนของข้อกังวลใจต่อการใช้ AI คนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยความกังวลต่อ AI ว่าจะมีราคาสูงเกินไปทำให้เกิดการเข้าไม่ถึงในคนบางกลุ่ม และการที่ AI จะสามารถเข้ามาทดแทนและแย่งงานมนุษย์


ภาพ: BBDO Bangkok และ freepik.com


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แนะ 8 ทักษะอาชีพรายได้สูงปี 2024 ที่ไม่ต้องกลัว AI แย่งงาน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine