การ์ทเนอร์ อิงค์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี เผยเศรษฐกิจตกต่ำกระทบยอดการจัดส่งอุปกรณ์ไอทีทั่วโลกปี 2566 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากเดิมยอดจัดส่งอุปกรณ์ทั้งเครื่องพีซี แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ ปี 2565 มีการขยายตัว 11.9% คาดการณ์ปีนี้จะขยายตัวเพียง 4.4%
รันจิต อัตวาล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะยังคงส่งผลทำให้ความต้องการอุปกรณ์เติบโตลดลงต่อเนื่องในปี 2566 สอดคล้องกับปริมาณการใช้จ่ายในกลุ่มอุปกรณ์ไอทีของผู้ใช้ปลายทางที่ลดลง 5.1% ในปีนี้ ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่จากวันนี้จนถึงไตรมาสที่สี่เรายังคาดการณ์ไม่ได้ว่าการผ่อนคลายของอัตราเงินเฟ้อและจุดต่ำสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะปรับตัวดีขึ้น”
ยอดพีซีคงคลังจะกลับมาเป็นปกติภายในครึ่งปีหลัง 2566
ยอดการจัดส่งพีซีในปี 2566 จะยังคงลดลงต่ำสุดจากทุกกลุ่มอุปกรณ์ โดยคาดว่าจะลดลง 6.8% จากเดิมที่ลดลงถึง 16% ในปี 2565
ผู้จำหน่ายพีซีจะลดจำนวนสินค้าคงคลังตลอดปี 2566 ซึ่งนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ยอดพีซีคงคลังจะกลับมาเป็นปกติในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หลังจากที่มียอดเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่แล้วเนื่องจากผู้จำหน่ายประเมินความต้องการของตลาดสูงเกินไปประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคตกต่ำรวมทั้งอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมาก
ขณะที่ในปี 2565 พีซีสำหรับธุรกิจจำนวนมากสามารถอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 (OS) แต่ยังมีอีกมากที่อัปเกรดไม่ได้ การ์ทเนอร์คาดว่ากว่า 25% ของพีซีสำหรับธุรกิจจะอัปเกรดเป็น Windows 11 ในปี 2566 แต่ Windows 11 ไม่สามารถกระตุ้นยอดจำหน่ายให้กลับมามีปริมาณเท่าในช่วงปี 2563 - 2565
นอกจากนี้ ผลของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังคืบคลานเข้ามาจะส่งผลให้เกิดการลดการใช้จ่ายและการจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสมยิ่งขึ้น การ์ทเนอร์คาดว่า ภายในสิ้นปี 2566 กลุ่มผู้บริโภคและธุรกิจจะปรับขยายรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์พีซีและแท็บเล็ตออกไปเป็นมากกว่า 9 เดือน
รอบการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือจะยืดออกไปในปี 2566
การ์ทเนอร์คาดว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปี 2566 จะลดลง 4% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 1.23 พันล้านยูนิต ลดลงจาก 1.28 พันล้านยูนิต ในปี 2565 “ผู้บริโภคจะใช้โทรศัพท์ตัวเองนานกว่าที่คาดไว้ จาก 6 เดือนเป็น 9 เดือน และเปลี่ยนจากการใช้สัญญาแบบตายตัวไปเป็นบริการที่ยืดหยุ่นในช่วงที่ยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จำเป็นออกมา นอกจากนี้ ผู้ขายยังผลักต้นทุนส่วนประกอบที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังผู้ใช้ ซึ่งทำให้ความต้องการลดลงไปอีก โดยปริมาณการใช้จ่ายกับโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้คาดว่าจะลดลง 3.8% ในปี 2566” อัตวาล กล่าวเพิ่มเติม
อ่านเพิ่มเติม: “บลูบิค - เบริล 8 พลัส” บรรลุข้อตกลง JV จัดตั้งบริษัทรุก Green Tech ลุยตลาด Net Zero ไทย-เทศ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine