ทำไมคนบางคนถึงมีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนรอบข้าง ในขณะที่บางคนทิ้งไว้เพียงความเครียดชวนปวดหัว? คุณจะสามารถดึงศักยภาพของคนอื่นๆ ออกมาในระหว่างทำงานได้อย่างไร?
Adam Galinsky ศาสตราจารย์ด้านจริยศาสตร์และความเป็นผู้นำจาก Columbia Business School ใช้เวลานานหลายสิบปีทำการวิจัยเพื่อค้นหาปัจจัยที่ทำให้ผู้นำบางคนสามารถจุดประกายแรงบันดาลแก่คนอื่น ในขณะที่บางคนมีแต่หาเรื่องให้ขุ่นเคืองใจ โดยในหนังสือเล่มใหม่ Inspire: The Universal Path for Leading Yourself and Others เขาได้แบ่งปันคุณลักษณะสากล 3 ข้อของนักสร้างแรงบันดาลใจ
“เราต่างดำรงอยู่บนวงจรของแรงบันดาลใจและความขุ่นเคืองซึ่งเรื่องเหล่านี้มีความเกี่ยวเนื่องกัน” Galinsky กล่าว “ซึ่งหมายความว่า เราไม่ได้เกิดมาพร้อมความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ แต่พฤติกรรมในปัจจุบันของเราเป็นตัวกำหนดว่าจะจุดประกายหรือกวนใจให้ขุ่นมัว ข่าวดีคือเราเลือกเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจได้ ด้วยการฝึกฝนตัวเองให้มีคุณลักษณะ 3 ข้อนี้ และไม่เป็นไรหรอกหากจะประสบกับวันที่แย่บ้าง เรายังตั้งเป้าว่าจะทำให้ดีกว่าในวันพรุ่งนี้ได้”
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/idsver6CN1CZNwUp1Bgn.jpg)
ผู้นำนักสร้างแรงบันดาลใจต่างมองโลกในแง่ดี
ธรรมชาติของมนุษย์ต่างก็กระหายที่จะพัฒนาเพื่อเสาะแสวงหาความหมายในบางสิ่งบางอย่าง ผู้นำที่เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจจะเฝ้าหาความหมายดังกล่าวผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ โดยมองภาพใหญ่ของอนาคตในแง่บวก
“เรากระหายหาเหตุผล แต่ไม่ใช่เหตุผลอะไรก็ได้ เรามองหาเหตุผลเชิงบวก เหตุผลที่เต็มไปด้วยความหวัง และความเป็นไปได้” Galinsky กล่าว
การมองโลกในแง่ดีนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันนำมาสู่พลัง จากการทดลองหลายอย่าง Galinsky พบว่า หากให้คนๆ หนึ่งลองตั้งมั่นกับสิ่งที่เขาคาดหวังจากการเจรจาต่อรอง จะช่วยให้เขาได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ทัศนคติเชิงบวกเองก็มีแนวโน้มที่จะได้รับการส่งต่อและจดจำมากกว่า ซึ่ง Galinsky อธิบายว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเมื่อวาทกรรมที่ได้รับการจดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกันมักให้ความสำคัญกับอนาคตที่สดใส แสงอาทิตย์สาดส่องประกายแห่งความหวัง แม้ในโมงยามอันมืดมิด”
แล้วคุณจะมีวิสัยทัศน์การมองโลกในแง่ดีได้อย่างไร?
งานวิจัยเผยให้เห็นพลังการเปลี่ยนแปลงที่มาจากการวิธีการอันเรียบง่าย อย่างการคิดถึงค่านิยมต่างๆ และเหตุผลว่าค่านิยมเหล่านี้สำคัญกับคุณอย่างไร
ผู้นำนักสร้างแรงบันดาลใจต่างทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
ผู้นำที่เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจต่างก็เป็นแบบอย่างของพฤติกรรมที่พวกเขาต้องการ พวกเขาชี้นำด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง แสดงออกต่อหน้าทุกคนว่าควรปฏิบัติอย่างไร ผู้นำเหล่านี้ต่างเยือกเย็นและกล้าหาญ เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหล และมีความสามารถสูง (แต่ก็ถ่อมตัวด้วย)
“การเป็นแบบอย่างที่ดีนั้นจะช่วยเติมเต็มความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งในที่นี้คือความปลอดภัยและความมั่นคง รวมถึงแพสชั่นและกำลังกายกำลังใจ” Galinsky อธิบาย
โดยปกติแล้ว อารมณ์เป็นสิ่งที่ส่งต่อได้ แต่อารมณ์ของผู้นำย่อมส่งผลแรงกล้าต่อผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อเราต้องเดินนำทีม ความสงบเยือกเย็นของเราก็จะกลายเป็นความสงบเยือกเย็นของพวกเขา และความกล้าหาญของเราก็จะส่งต่อไปยังพวกเขา ซึ่งไม่ใช่แค่อารมณ์เชิงบวกเท่านั้น ความวิตกของเราก็นำพาให้คนอื่นกังวลตามไปด้วยเช่นกัน
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/BgV1p1tRcNRVDwaRUp7f.jpg)
แล้วคนเป็นผู้นำจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี มีความเยือกเย็น กล้าหาญ และน่าเชื่อถือได้อย่างไร?
Galinsky นำเสนอแนวทางอันเรียบง่ายที่เคยผ่านการทดลองมาหลายร้อยครั้งแล้วทั่วโลก นั่นคือการจินตนาการถึงเวลาที่คุณรู้สึกมีอำนาจและควบคุมทุกอย่างได้ เมื่อ Gillian Ku หนึ่งในนักเรียนระดับปริญญาเอกของเขาได้ทดลองทำสิ่งนี้ก่อนเข้าสัมภาษณ์งานครั้งสำคัญที่ London Business School เธอก็สัมผัสได้ถึงความมั่นใจที่ไหลไปทั่วร่าง จากนั้นเธอจึงไปสัมภาษณ์งานและผ่านฉลุย
20 ปีผ่านไป ปัจจุบัน Gillian Ku ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์เกียรติยศประจำสาขาพฤติกรรมองค์กรที่ London Business School
ผู้นำนักสร้างแรงบันดาลใจต่างคอยชี้แนะแนวทาง
ผู้นำที่เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจยังเป็นผู้ชี้แนะที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาคอยผลักดันและสนับสนุนคนอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็คอยทดสอบเพื่อให้พวกเขาพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พวกเขาปฏิบัติต่อมนุษย์เยี่ยงมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ
Galinsky อ้างอิงคำพูดของขงจื๊อเพื่อให้เห็นภาพของการสนับสนุนที่ช่วยจุดประกายแรงบันดาลใจว่า “บอกข้าแล้วข้าก็จะลืม แสดงให้ข้าเห็นแล้วข้าก็อาจจำได้ ให้ข้ามีส่วนร่วมแล้วข้าก็จะเข้าใจ”
Galinsky เสริมว่า “การมีส่วนร่วมช่วยพาเราจากขอบสนามเข้าสู่สนาม เราเปลี่ยนจากผู้เฝ้ามองที่ไม่ได้มีบทบาทอะไร มาเป็นผู้เล่นที่มีตัวตน”
โดย Galinsky ใช้เวลาถึง 25 ปีเพื่อศึกษา การฝึกมองจากมุมมองของคนอื่น (perspective-taking) และพบว่ามันช่วยให้เราสามารถมีกรอบความคิดแบบผู้ชี้แนะได้
จุดประกายแห่งแรงบันดาลใจ คุณเองก็ทำได้
การมีวิสัยทัศน์ เป็นต้นแบบที่ดี และคอยชี้แนะแนวทาง ทั้ง 3 ข้อนี้เพื่อช่วยจุดประกายแก่ผู้คนรอบข้าง
นอกจากนี้ หากมีการสะท้อนและสื่อสาร ทั้งด้านคุณค่า ประสบการณ์ที่ช่วยสร้างความมั่นใจ และเข้าใจมุมมองของผู้อื่น เราย่อมสามารถนำแรงบันดาลใจมาสู่ผู้อื่นได้อย่างแน่นอน
แปลและเรียบเรียงจาก Research Says Leaders Who Inspire Others to Greatness Always Show These 3 Qualities
ภาพ: Harper Collins Publishers
Photo by Ivan Samkov and fauxels on Pexels
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดใจชาว Gen Z แท้จริงไม่ได้เรื่องมาก “แต่ชีวิตมันยากกว่าคนรุ่นก่อน”
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine