5 สกิลต้องมี ในยุคแห่งอนาคตของมนุษย์ที่เหนือกว่า แม้แต่ AI ไม่อาจแทนที่ได้ ท่ามกลางสภาวะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเข้ามามีบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศูนย์รวมคลังข้อมูลมหาศาลที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง การสร้างสรรค์งานศิลปะ หรือแม้แต่การคีย์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ หลายองค์กรเลือกลดต้นทุน ปลดพนักงานในบริษัทเพื่อนำ AI มาทำแทน ดังที่ Amazon วางแผนเลิกจ้างพนักงานบริษัทมากถึง 30,000 คน เน้นย้ำว่าลักษณะงานกำลังถูกปรับเปลี่ยน
สำหรับซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล การปลดพนักงานคือจุดเปลี่ยนของยุคสมัย คำถามจึงไม่ใช่แค่ว่า AI จะทำงานได้รวดเร็วเพียงใด แต่คือผู้นำจะรักษาทักษะความเป็นมนุษย์ที่ยังเหนือกว่า AI ไว้ได้อย่างไร ระหว่างที่ต้องเดินหน้าพัฒนาองค์กรไปพร้อมกัน จนหลายคนเกิดคำถามว่า แล้วสกิลไหนบ้างที่เอไอยังแทนที่ไม่ได้ และมนุษย์อยู่ตรงไหนในสมการดังกล่าว?
ความขัดแย้งในประสิทธิภาพของ AI
จากรายงานแนวโน้มการทำงานปี 2025 ของ Microsoft ระบุว่า “AI ช่วยเร่งให้เกิดผลลัพธ์ แต่ไม่สามารถแทนที่ความคิดต้นฉบับได้ อนาคตจะเป็นของผู้ที่รู้ว่าเมื่อใดควรไว้วางใจเครื่องจักร และเมื่อใดควรไว้วางใจตัวเอง” รายงานดังกล่าวตอกย้ำว่า คนที่พึ่งพา AI มากๆ จะทำงานเสร็จเร็วขึ้น แต่จะได้คิดเกี่ยวกับงานนั้นน้อยลง
แล้วความเชื่อมโยงของมนุษย์และ AI ในด้านการทำงานพอจะไปกันได้หรือไม่? รายงานจาก LinkedIn ปี 2025 แสดงให้เห็นว่า จำนวนตำแหน่งงานที่ระบุคุณสมบัติความรู้เกี่ยวกับ AI ส่งผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ เพิ่มขึ้นถึง 180% จาก 5% ในปี 2022”
5 ทักษะของมนุษย์ที่สามารถเอาชนะ AI ได้
ถามคำถามที่ดีกว่า
AI สามารถหาคำตอบได้ แต่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ว่าปัญหาใดสำคัญที่สุด การตัดสินใจเชิงวิเคราะห์ การเลือกคำถามที่ถูกต้องได้กลายเป็นคุณลักษณะสำคัญของภาวะผู้นำ อย่างที่ MIT Sloan Management Review ค้นพบว่า องค์กรที่ลงทุนด้านเทคโนโลยีและศักยภาพของมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าองค์กรอื่นๆ ในด้านนวัตกรรมถึง 33% หาก AI สามารถสรุปรายงานและร่างอีเมลได้แล้ว จะเหลืออะไรให้มนุษย์ตัดสินใจว่าสิ่งนั้นสำคัญจริงๆ
สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
อัลกอริทึมสามารถผสมและเรียบเรียงข้อมูลได้ แต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถสร้างแนวคิดใหม่ขึ้นมาได้อย่างแท้จริง จากผลสำรวจของ Global Workforce Hopes & Fears Survey 2025 พบว่า 52% ของพนักงานกล่าวว่า พวกเขาใช้เครื่องมือ AI อยู่แล้ว แต่มีเพียง 22% เท่านั้นที่ไว้วางใจบริษัทเพื่อยกระดับทักษะของพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพ หากเครื่องจักรสามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ และใครจะเป็นผู้คิดค้นสิ่งใหม่ขึ้นมา
เชื่อมโยงด้วยความเข้าอกเข้าใจ
ในโลกที่เต็มไปด้วยเนื้อหาสังเคราะห์จาก AI ทีมงานและลูกค้ายังคงโหยหาการสื่อสารที่มาจากตัวตนจริง การรับฟังกันอย่างตั้งใจ การให้คำแนะนำด้วยความเมตตา ปัจจุบัน 67% ของ CEO ทั่วโลก ระบุว่า ความฉลาดทางอารมณ์คือหนึ่งในสามคุณสมบัติผู้นำที่สำคัญที่สุด สำหรับการนำพาองค์กรให้รอดพ้นจากความเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
การตีความผลที่ตามมา
มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถชั่งน้ำหนักทางศีลธรรมได้อย่างแท้จริง ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัว อคติของข้อมูล และผลกระทบทางสังคมเหล่านี้ ต้องอาศัยการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมที่ไม่มีอัลกอริทึมหรือระบบอัตโนมัติใดสามารถแทนได้ จากการสำรวจของ Harvard Business Review ปี 2025 ในกลุ่มกรรมการบริษัท พบว่า 74% เชื่อว่าการตัดสินใจเชิงจริยธรรม เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งกว่าความเชี่ยวชาญทางเทคนิค สำหรับผู้นำระดับสูงในยุคนี้
เรียนรู้ให้เร็วกว่าเดิม
รายงานของ IBM ระบุว่า ครึ่งชีวิตของทักษะในสายเทคโนโลยี ลดลงเหลือต่ำกว่า 2.5 ปีแล้วในปัจจุบันและเมื่อโค้ดยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อมองภาพรวมทักษะ แห่งการอยู่รอดในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทุกวัน ผู้นำที่แท้จริงต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่างานแบบไหนที่ยังมีคุณค่าควรค่าแก่การทำ
โดยสรุปแล้ว หากมองภาพรวมบทเรียนเหล่านี้สะท้อนว่า ความสามารถในการตั้งคำถาม ตีความ และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกำลังกลายเป็นทักษะสำคัญของภาวะผู้นำยุคใหม่ AI อาจช่วยเร่งกระบวนการทางข้อมูลและการตัดสินใจ แต่ไม่อาจลอกเลียนปัญญาได้ ด้าน Jaime Teevan หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ของ Microsoft กล่าวไว้ว่า การทำงานร่วมกับ AI ไม่ใช่แค่การกดปุ่มสั่งงาน แต่คือการตั้งคำถามที่ถูกต้องมากกว่า
แปลและเรียบเรียงจาก : 5 Human Skills Beating AI—And Keeping You Irreplaceable
ภาพ Freepik
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : AI ก้าวหน้า แต่ 39% พนักงานทั่วโลก รู้สึก 'ด้อยค่า' กำลังจะหมดไฟ! แล้วแบบนี้ HR ต้องทำยังไง?
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


