หลังมีข่าวคราวความต้องการ ‘มัทฉะ’ ที่เพิ่มสูงจนสินค้าขาดตลาด ซ้ำยังดันราคาจนแพงขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2024 ที่ผ่านมา ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาผลักดันเกษตรกรชาเชียวให้ผลิตใบชา ‘เทนฉะ’ ที่เป็นวัตถุดิบสำหรับทำมัทฉะเพิ่มมากขึ้นเพื่อผลักดันการส่งออก
สำหรับคอชาเขียวญี่ปุ่นคงทราบกันมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปีที่แล้วว่าราคามัทฉะ (Matcha) หรือผงชาเขียวญี่ปุ่นค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น สืบเนื่องมาจากความนิยมดื่มชาเดียวที่มาแรงพาให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นตาม มิหนำซ้ำเกษตรกรยังไม่สามารถผลิตมัทฉะได้ทันจนสินค้าขาดตลาด โดยเฉพาะอุจิมัทฉะ (Uji Matcha) ซึ่งเป็นมัทฉะเกรดพรีเมียมที่นำมาทำเครื่องดื่มอย่างมัทฉะลาเต้และขนมต่างๆ
รายงานจาก Japan Forward เผยว่า ณ ปลายปี 2024 มีการวางจำหน่ายอุจิมัทฉะจากญี่ปุ่นบนเว็บไซต์ต่างๆ ในไทย เวียดนาม และสิงคโปร์ ในราคาสูงกว่าปกติเกิน 2 เท่าตัว จนบรรดาผู้ผลิตในญี่ปุ่นต้องออกมาประกาศแสดงเจตจำนงว่าไม่ต้องการให้มีการนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไปขายต่อในราคาสูงเกินจริง ทั้งยังมีการเตือนให้ผู้บริโภคระวังมัทฉะปลอมอีกด้วย
กระทั่งวันที่ 25 มกราคม 2025 สำนักข่าว Kyodo News เผยว่า ตอนนี้ทางกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น กำลังพิจารณาวางแผนอัดฉีดเงินสนับสนุนพิเศษเพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตเทนฉะซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับทำมัทฉะได้มากขึ้นในปีนี้
ในการผลิตมัทฉะนั้น เกษตรกรจะเริ่มจากการปลูกต้นชาเขียวโดยมีการคลุมต้นชาป้องกันแสงแดดราว 4 สัปดาห์ มักเก็บเกี่ยวช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ตามด้วยการนำใบชาที่ได้มาผ่านกระบวนการเติมความชื้นและตากให้แห้ง เรียกผลิตภัณฑ์ที่ได้ว่า ‘เทนฉะ’ ซึ่งเมื่อนำไปโม่เป็นผงละเอียดก็จะกลายเป็น ‘มัทฉะ’ นั่นเอง
อุตสาหกรรมชาเขียวญี่ปุ่นนั้นประกอบใบด้วยชาเขียวหลายประเภท ในปี 2023 ญี่ปุ่นส่งออกชาเขียวมากถึง 7,579 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2.92 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 6.37 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นราว 9 เท่าตลอดระยะเวลา 15 ปี ซึ่งหลักๆ แล้วคือมัทฉะที่มีแรงส่งจากความนิยมอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น การผลิตชาเขียวญี่ปุ่นไม่ได้มากขึ้นตาม ตรงกันข้าม ผลผลิตที่ได้กลับลดลงกว่า 20% เนื่องจากเกษตรกรญี่ปุ่นเริ่มมีอายุมากขึ้น
“การผลิตชาที่มีมูลค่าสูงพิเศษนับเป็นเรื่องสำคัญ เราจะผลักดันการอภิปรายเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน” กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่นเผย
สำหรับการผลักดันให้ผลิตเทนฉะจะเริ่มจากการกำหนดนโยบายพื้นฐานว่าด้วยการผลิตชา ซึ่งจะมีการปรับปรุงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้
นอกเหนือจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังยกระดับความพยายามเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับมัทฉะผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยบัญชี Instagram ที่เปิดมาเพื่อโปรโมตชาญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการโดยศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารญี่ปุ่นไปยังต่างประเทศ (JFOODO) นั้น ปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 30,000 คนแล้ว
แหล่งที่มา:
Japan looks to cash in on matcha boom to boost green tea exports
Prized Matcha from Kyoto Struggles to Keep Up with Surging Demand
Photo by Anna Pou from Pexels
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 7 บทเรียนจาก ‘เจ้าชายน้อย’ วรรณกรรมเด็กที่ส่งเสียงสะท้อนถึงหัวใจของผู้ใหญ่
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine