Pop Mart ผู้ผลิตอาร์ตทอยสัญชาติจีนคาดการณ์ว่าความนิยมของตุ๊กตาลาบูบู้ (Labubu) จะทำให้รายได้ในครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตสูงขึ้นถึง 3 เท่า และผลกำไรก็อาจสูงกว่านั้น
ลาบูบู้ คาแรกเตอร์หูยาว ฟันแหลม และตาโต ได้กลายเป็นศูนย์กลางความนิยมอันล้นหลามของบรรดานักสะสมทั่วโลก หลังคนดังตั้งแต่ลิซ่า (Lalisa) ไปจนถึง Rihanna เป็นคนจุดกระแสดังกล่าวขึ้นมา โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตุ๊กตาลาบูบู้ขนาดเท่าคนจริงถูกประมูลไปในราคา 150,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่ปักกิ่ง
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2025 ทาง Pop Mart คาดการณ์ว่าบริษัทฯ จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 350% นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ส่วนรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าวก็น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 200% โดยนอกเหนือจากการรับรู้แบรนด์และยอดขายที่เพิ่มขึ้นมหาศาล บริษัทฯ เผยว่าการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Optimization) และการควบคุมรายจ่าย (Expense Control) ก็มีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรด้วยเช่นกัน
จากเดิม Pop Mart คือความคลั่งไคล้ในหมู่ชาวจีนอายุน้อย ก่อนปะทุเป็นเทรนด์ในระดับนานาชาติ แฟนๆ ต่างขึ้นต่อแถวนานหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้มาซึ่งตุ๊กตาตัวดัง ความนิยมของลาบูบู้ที่พุ่งทะยานดัน Pop Mart สู่บริษัทที่มีมูลค่าทะลุ 40 ล้านเหรียญ ในขณะที่หุ้นบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 588% ตลอดปีที่ผ่านมา
กระแสความนิยมลาบูบู้ทลายกำแพงเข้าสู่ตลาดตะวันตก และพา Pop Mart เติบโตเป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ในระดับโลกที่มีอัตรากำไรค้าปลีก (Retail Profit Margins) สูงสุดรายหนึ่ง โดยในปี 2024 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของ Pop Mart อยู่ที่ราว 67% ส่วนบริษัทผู้ผลิตของใช้ในบ้านและของเล่นอย่าง Miniso Group Holding อยู่ที่ 45% ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi และ BYD ต่างอยู่ที่รายละประมาณ 20%
แปลและเรียบเรียงจาก Pop Mart says Labubu craze to spur 350% surge in profit
ภาพโดย Pedro Pardo via AFP
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ฉลองครบ 40 ปี พี่นี่แหละของแท้! เมื่อ Dilmah คอลแล็บ WOOPS เปิดตัว The Real Fruit Tea ชาผลไม้แท้ 100%
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
