William Heinecke เผยสถานการณ์โควิด-19 ฉุดธุรกิจชะลอตัว เตรียมเสริมเแกร่งไมเนอร์ฯ ออกหุ้นกู้หมื่นล้านบาทพร้อมเพิ่มทุน ย้ำมั่นใจในประสบการณ์และฐานะทางการเงิน พร้อมขอบคุณนักลงทุนที่สนับสนุนธุรกิจยาวนานกว่า 50 ปี
William Heinecke ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยแม้ธุรกิจของไมเนอร์จะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้จากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย แต่องค์กรยังมีความมั่นใจในประสบการณ์และความแข็งแกร่งของไมเนอร์ “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไมเนอร์มีผลการดำเนินงานที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 วิกฤตทางการเมืองในประเทศ และน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งเราสามารถฝ่าฟันไปได้ และทำให้เราขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจของเรา เช่นธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน ธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ อย่าง โอ๊คส์ โฮเทล ในออสเตรเลีย ทิโวลี โฮเทล และ เอ็นเอช โฮเทลส์ ในยุโรปและลาตินอเมริกา" ทั้งนี้ไมเนอร์ เป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ มีการจ้างงาน และสร้างอาชีพร่วมหลายหมื่นคน ปรับธุรกิจรับโควิด-19 "สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเป็นปีที่ไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่เพราะการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั่วโลก โดย ไมเนอร์ ได้ปรับตัวทั้งการสร้างมาตรฐานสุขอนามัยสำหรับธุรกิจโรงแรม การส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่บริษัทเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทย และยังเป็นผู้นำมาตลอด 20 กว่าปี ไปจนถึงการใช้ช่องทางออนไลน์ในการให้บริการ รวมทั้งการปรับธุรกิจให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal การลดต้นทุนต่างๆ เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้ เรากำลัง Reopening อย่างต่อเนื่อง องค์กรเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว โรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วไทย ได้ทยอยเปิดให้บริการและพร้อมขานรับมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว" William Hineke กล่าวโดยสรุป ก่อนเกิดโควิด-19 ไมเนอร์ ได้ประกาศแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเป็นแผนเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว นอกจากจะทำให้ฐานะการเงินของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น พร้อมรักษาวินัยทางการเงินแล้ว ยังสามารถรองรับวิกฤตโควิด-19 และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่เพื่อความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ไมเนอร์ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual bond ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และการออกหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 8.2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ที่ราคาเสนอขาย 17.50 บาท และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 7 หรือ MINT-W7 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น หลังเสร็จสิ้นการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 22 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยมีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ 21.60 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ในระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ ไมเนอร์ ได้กำหนดช่วงเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม 2563 อ่านเพิ่ม: ไมเนอร์ฯ ประกาศเพิ่มทุน 2.5 หมื่นล้าน รับมือผลกระทบจากโควิด-19 William Heinecke เผยด้วยว่าในฐานะผู้ก่อตั้ง และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของไมเนอร์ ได้เตรียมใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้และจะจองซื้อเกินกว่าสิทธิ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุน และทำให้เราได้รับเงินทุนในครั้งนี้ครบตามจำนวน “ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านที่ยังคงเชื่อมั่นและให้การสนับสนุนธุรกิจของไมเนอร์มาเป็นอย่างดีและยาวนานมาร่วมกว่า 50 ปี หลายท่านถือหุ้นของไมเนอร์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่องค์กรนำ 3 ธุรกิจ คือ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนที่เราจะรวมทั้ง 3 ธุรกิจภายใต้ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT มาจนถึงปัจจุบัน และเราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่องต่อไป” อ่านเพิ่มเติม: William Heinecke และการก้าวขึ้นไปในอาณาจักร “ไมเนอร์”ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine