บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เปิดเผยเป้าหมายธุรกิจปี 68 สร้างรายได้แตะ 8,500 ล้าน เติบโต 12%YoY เร่งขยายประกันรถเปิดปิดที่มี Loss ratio ต่ำกว่าประเภทอื่น พร้อมขยายฐาน Non-Motor ประกันกลุ่มด้านสุขภาพและชีวิต และเร่งต่อยอดแผนงานด้าน Digital Transformation ผ่านการใช้งานบน Thaivivat Application
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2568 นี้ ทางไทยวิวัฒน์ฯ ตั้งเป้าหมายมีเบี้ยประกันภัยรวมที่ 8,500 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่ากำไรสุทธิบริษัทฯ จะยังเติบโตตามแผน ขณะที่ปี 2567 เบี้ยฯ รับรวมมีอัตราการเติบโตราว 3-4% เพราะมีการปรับแผนงานบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง
ในปีนี้ไทยวิวัฒน์ฯ เดินหน้าขยายงานด้านการประกันภัย ได้แก่
1. ประกันภัยรถยนต์ ที่ยังมีสัดส่วนหลักในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการในตลาดยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะประกันรถเปิด-ปิด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการคุ้มครอง ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 10% ของพอร์ตประกันรถยนต์แม้จะยังน้อย แต่มีอัตราส่วนค่าสินไหม Loss Ratio ราว 50% ถือว่าต่ำกว่าประกันรถประเภทอื่นๆ ที่อยู่ราว 60% จึงยังมุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้
2. ประกันกลุ่มด้านสุขภาพและชีวิต โดยจะเน้นทำตลาดในกลุ่มบริษัทและองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก
3. Active Health Products ที่จะเน้นขยายตลาดผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม
กลยุทธ์หลักของปี 2568 ยังเน้นการขยายงานในส่วน Non-Motor ที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์ เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันที่อยู่อาศัย ฯลฯ โดยปัจจุบันสัดส่วนประกันภัยรถยนต์ (Motor) ได้ปรับมาสู่ระดับ 70% ต้น ๆ จากเดิมที่อยู่ราว 80% ซึ่งสะท้อนถึงการกระจายความเสี่ยงและหารายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญคือการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มรายย่อย ผ่านพัธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ ไมโครไฟแนนซ์ และ สถาบันการเงิน เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น easy buy ฯลฯ
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/V6W5LdcX6ZtWVgDXUw5d.jpg)
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์ในด้านต่างๆ เช่น ด้านสังคม มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่สำหรับการประกันรถเปิดปิด คือ“รถติด ไม่คิดเบี้ย” ตอบโจทย์คนเมืองใช้รถ โดยขณะรถติดก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัวได้ทำการคืนชั่วโมงความคุ้มครองให้กับลูกค้าแล้วกว่า 4 ล้านนาที (เริ่มเมื่อ ต.ค. 2024 รวม 4 เดือน)
นอกจากนี้ยังมีแผนงานด้าน Digital Transformation ผ่านการใช้งานบน Thaivivat Application เพื่อลดการใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้เทคโนโลยี AI ตรวจสภาพรถก่อนทำประกัน เพื่อลดการขับขี่ส่งเสริมการลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ลดการใช้กระดาษด้วยการออกกรมธรรม์แบบ e-Policy รวมถึงการเคลมประกันผ่าน e-Claim โดยไม่ต้องใช้เอกสารและลดการเดินทางของพนักงานในการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินที่เอาประกัน
ในด้านความร่วมมือกับพันธมิตรล่าสุดยังได้จับมือ บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ITOCHU Corporation) แห่งประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมผลักดันและพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมประกันภัย ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้โอกาสคนไทยได้เข้าถึงการประกันภัยได้มากขึ้นอันจะเป็นการสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนในอนาคต พร้อมกันนั้นยังเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศให้มากขึ้น อันเป็นส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ภาพ: บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อลิอันซ์ เผยระบบบำนาญทั่วโลกต้องปฎิรูปจริงจังแม้แต่ญี่ปุ่น ส่วนไทยอยู่ในขั้นต้องแก้แบบเร่งด่วน!
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine