อัปเดตแผนฟื้นฟูกิจการ ‘การบินไทย’ มั่นใจครึ่งปีแรก 68 ออกจากแผนฯ ได้ เผยไตรมาส 3 ปีนี้กำไรฯ แตะ 12,483 ล้าน - Forbes Thailand

อัปเดตแผนฟื้นฟูกิจการ ‘การบินไทย’ มั่นใจครึ่งปีแรก 68 ออกจากแผนฯ ได้ เผยไตรมาส 3 ปีนี้กำไรฯ แตะ 12,483 ล้าน

การบินไทยอัปเดตความคืบหน้ากระบวนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ย้ำภายในครึ่งปีแรก 2568 จะออกจากแผนฯ นี้ได้ ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 12,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 707.4% จากปีก่อน เพราะรายได้การบินเพิ่มขึ้น แม้ภาพรวม 9 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิยังลดลง 6.9%


    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ซึ่งได้เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการมานานหลายปี ล่าสุดอัพเดทว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วรวมทั้งสิ้น 3,531 ล้านบาท และเดินหน้าปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลายเป็นบวก (ยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. และอยู่ระหว่างการพิจารณาทั้ง ก.ล.ต. และ ตลท.) โดยจะดำเนินการ

    1) การแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแบบภาคบังคับเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 37,828 ล้านบาท

    2) การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,911 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 12,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion)

    3) การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,903 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,845 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนโดยความสมัครใจ ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

    เบื้องต้นคาดว่าเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจะสามารถแสดงเจตนาการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการทั้งในส่วน Voluntary Conversion (2) และหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักได้ ตั้งแต่วันที่ 19 - 21 พฤศจิกายน 2567 หลังจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนมีผลใช้บังคับ

    ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ จะดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822 ล้านหุ้น (รวมทั้งหุ้นที่เหลือจาก Voluntary Conversion (หากมี)) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) (ตามลำดับ) โดยคาดว่าจะดำเนินการเสนอขายให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม ของปี 2567

    อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงคาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 


    ในส่วนของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 พบว่า การบินไทย และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) อยู่ที่ 45,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% โดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.94 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวลดลงจาก 77.3% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 76.1%

    ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 4,829 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 10,119 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 12,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 707.4% โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 6,655 ล้านบาท

    ในส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 135,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% ในขณะเดียวกันมีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 111,617 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้า

    บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 24,193 ล้านบาท ลดลง 17.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

    บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 14,233 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 5,273 ล้านบาท 

    ส่วนใหญ่มาจากปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินแบบแอร์บัส A380-800 ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 15,221 ล้านบาท ยังปรับตัวลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 25,056 ล้านบาท


    นอกจากนี้ ณ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการทั้งสิ้น 77 ลำ แบ่งเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ 20 ลำ และเครื่องบินลำตัวกว้าง 57 ลำ โดยในเดือนตุลาคม ได้รับเครื่องบินลำตัวกว้างจากการเช่า จำนวน 2 ลำ ทำให้ปีนี้มีการรับเครื่องบินเพิ่ม 9 ลำ

    บริษัทฯ มีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 13.0 ชั่วโมงต่อลำต่อวัน มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.2% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 15.3% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 77.4% ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 80.0% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 11.62 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.7%

    ในด้านสินทรัพย์รวม ณ 30 กันยายน 2567 อยู่ที่ 263,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% จากสิ้นปี 66 หนี้สินรวมจำนวน 291,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากสิ้นปี 66 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยติดลบ 27,941 ล้านบาท ติดลบลดลงจากสิ้นปี 66 คิดเป็น 15,201 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเงินสด ตั๋วเงินฝาก เงินฝากประจำที่มีระยะเวลาที่ครบกำหนดชำระมากกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี และหุ้นกู้ที่ครบกำหนดภายใน 1 ปี 82,587 ล้านบาท



ภาพ: การบินไทย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : นายจ้างพร้อมไหม? เมื่อพนักงาน/ลูกจ้างไทย 95% อยากให้ลดเวลาทำงานเหลือแค่ 4 วันต่อสัปดาห์

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine