ภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความซับซ้อนและมีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจยุคปัจจุบันและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลก ไทยสามารถใช้ความร่วมมือกับจีนเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์หลัก
การพัฒนาโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี่จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศ เพราะสองอุตสาหกรรมนี้เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการบรรลุเป้าหมายด้านอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วในตลาดดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกที่ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนและโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านช่องทางทางการเงินที่มั่นคง เช่น HFM ซึ่งดำเนินงานในฐานะโบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้โอกาสจากแนวโน้มเหล่านี้
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นจากโครงการพัฒนาแห่งชาติและการแข่งขันระดับโลกเพื่อครองตลาด ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ที่มีอยู่เดิม เพื่อดึงดูดการลงทุนจากจีนในการสร้างโรงงานประกอบ ศูนย์วิจัย และโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี จีนเป็นผู้นำในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกจากการควบคุมการผลิตชิประดับกลางและความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบสำคัญ ไทยสามารถเสริมความแข็งแกร่งในห่วงโซ่นี้ด้วยการใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 รถยนต์ที่ผลิตทั้งหมดอย่างน้อย 30% จะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องการระบบการผลิตแบตเตอรี่ที่มีความน่าเชื่อถือและมีเทคโนโลยีสูง การพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ภายในประเทศจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วยความร่วมมือจากบริษัทจีนที่เป็นผู้นำในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและโซเดียมไอออน
อย่างไรก็ตาม ทุกโอกาสทางธุรกิจย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง ไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากประเทศตะวันตก เนื่องจากการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทานอาจนำไปสู่ความพยายามในการกระจายแหล่งผลิตออกจากปักกิ่ง ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับจีนและพันธมิตรอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป เพื่อป้องกันความเปราะบางที่อาจเกิดขึ้น
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ การตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี่ต้องพึ่งพาแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคขั้นสูง ไทยจำเป็นต้องลงทุนในโครงการการศึกษาและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เพื่อฝึกอบรมแรงงานรุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้ ประเทศยังควรส่งเสริมการวิจัยในประเทศเพื่อเปลี่ยนบทบาทของไทยจากศูนย์กลางการผลิตเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและระบบโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของอุตสาหกรรมเหล่านี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวต้องการพลังงานจำนวนมาก ไทยจึงต้องเพิ่มขีดความสามารถด้านพลังงานหมุนเวียนและพัฒนาระบบสมาร์ตกริดเพื่อรองรับการลงทุนในระยะยาว ระบบขนส่งก็ต้องได้รับการปรับปรุงทั้งท่าเรือ สนามบิน และศูนย์โลจิสติกส์ เพื่อรักษาความเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี่จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในระดับประเทศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้ามูลค่าสูง ส่งผลให้ประเทศไทยมีบทบาทเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักลงทุนจากทั่วโลกเริ่มประเมินศักยภาพของภูมิภาคนี้มากขึ้น ไทยสามารถสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการผลิตหลัก แข่งขันกับเวียดนามและมาเลเซียซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านนี้
เส้นทางสู่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการรักษาความโปร่งใสทางการเงินและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไทยจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของนโยบายผ่านการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงความผันผวนจากการเมือง และจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ หากทำได้ ประเทศไทยจะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการลงทุนด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีของโลก
ความท้าทายหลักของไทยคือการเปลี่ยนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับจีนให้กลายเป็นฐานอุตสาหกรรมสมัยใหม่สำหรับอนาคต ด้วยการผสมผสานระหว่างนโยบายที่เหมาะสม การพัฒนาทักษะแรงงาน โครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุน และความร่วมมือระดับนานาชาติ ไทยจะสามารถบรรลุวิสัยทัศน์นี้ได้ ประเทศสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีมูลค่าสูง ผ่านการเปลี่ยนจากการพึ่งพาการท่องเที่ยวและการผลิตแรงงานเข้มข้นไปสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อนาคตของประเทศไทยในฐานะผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการคว้าโอกาสนี้ในเวลาปัจจุบัน


