ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ‘SkillLane’ ธุรกิจ EdTech เตรียมขาย IPO 15 ล้านหุ้นในตลาด mai

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ‘SkillLane’ ธุรกิจ EdTech เตรียมขาย IPO 15 ล้านหุ้นในตลาด mai

บมจ.สกิลเลน เทคโนโลยี หรือ SKILL บริษัทด้าน Education Technology เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมขาย IPO 15 ล้านหุ้น ในตลาดหุ้น mai หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง มุ่งสร้างนวัตกรรมยกระดับการศึกษาไทยผ่านการพัฒนาหลักสูตรการเรียนออนไลน์ แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ฯลฯ


    นายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน SKILL กล่าวว่า ความคืบหน้าแผนการเสนอขายหุ้น IPO และการนำ SKILL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai

    ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) แล้ว เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 15 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายนำเงินจากการเสนอขาย IPO ไปใช้ในการพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน


    นายฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKILL ธุรกิจด้านเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตรการเรียนออนไลน์ (Content) แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ (Platform) และการให้บริการที่ปรึกษาการเรียนออนไลน์ (Service) โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าสามารถเรียนรู้ และพัฒนาทักษะของตนเองได้อย่างสะดวกโดยปราศจากข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองและบรรลุเป้าหมายของแต่ละช่วงในชีวิตได้

    นอกจากนี้ SKILL ยังประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา แก่หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษามากว่า 10 ปี โดยมีคอร์สออนไลน์คุณภาพมากกว่า 3,900 คอร์สเรียน สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 1,300 คน และมีการเปิดบัญชีผู้ใช้งานในระบบมากกว่า 1,300,000 บัญชีสำหรับบุคคลทั่วไปและลูกค้าองค์กร

    ปัจจุบัน บริษัทฯ มีบริการแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

    1.ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบครบวงจร

    1.1 สำหรับบุคคลทั่วไป (SkillLane for Public : B2C) เช่น แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ เรียนรู้ได้ด้วยตนเองและหลักสูตรเพื่อพัฒนาความรู้ทางวิชาชีพ เช่น วิชาชีพประกันภัย และวิชาชีพการลงทุน

    1.2 สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร (SkillLane for Business : B2B) ให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับองค์กร (Corporate Online Training) เช่น (1) บริการการเรียนแบบไม่จำกัด (Buffet) (2) การพัฒนาความรู้ทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องสำหรับองค์กร (Continuing Professional Development : CPD) และ (3) ระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ในองค์กร (Learning Management System : LMS)

    1.3 สำหรับปริญญาออนไลน์ (SkillLane for Online Degrees) ปัจจุบัน SKILL ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ สำหรับปริญญาโทออนไลน์ภายใต้โครงการ TUXSA โดยเป็นหลักสูตรแบบ Self-Paced Online Master’s Degree ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์จำนวน 4 หลักสูตร

    นอกจากนี้ SKILL ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยมีแผนในการพัฒนาหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์สำหรับหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจำนวน 3 หลักสูตรภายในปี 2570 ซึ่งมุ่งเน้นด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เทคโนโลยีทางการตลาด (Marketing Technology) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)



    2. ธุรกิจการให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา (SkillLane Innovation) ปัจจุบัน SKILL เริ่มพัฒนานวัตกรรมระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ของผู้ใช้งาน ได้แก่ การพัฒนาแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ และระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการเรียนรู้ เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาไทย

    “SKILL มีความมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษามายกระดับการศึกษาไทย โดยเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์รวมถึงบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนและองค์กร พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่แก่การศึกษาไทย ให้การศึกษาไทยก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน” นายฐิติพงศ์ กล่าว



ภาพ: บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดใจ ‘สุธี อัสววิมล’ หรือ พี่โหน่ง แห่ง OnDemand จากวิศวกรโรงงาน สู่ 2 โรงเรียนมัธยมแนวใหม่บน MBK

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine