SkillLane ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมขาย IPO 15 ล้านหุ้น ‘ระดมทุนปั้น AI-ขยายธุรกิจ’ - Forbes Thailand

SkillLane ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมขาย IPO 15 ล้านหุ้น ‘ระดมทุนปั้น AI-ขยายธุรกิจ’

SkillLane แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ด้าน EDtech ของไทย หรือ บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) จะใช้ชื่อย่อหุ้น SKILL ได้ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เตรียมขายหุ้น IPO ในตลาด mai รวม 15 ล้านหุ้น


    บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKILL เข้ายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 15,000,000 หุ้น คิดเป็น 15.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้

     ทั้งนี้ มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทมูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) 1.31 บาทต่อหุ้นโดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

     ในด้านธุรกิจ บมจ. สกิลเลน เทคโนโลยี ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 โดยมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีด้านการศึกษา (Education Technology) โดยบริษัทฯ ประกอบธุรกิจ 2 ประเภท ได้แก่

     1) ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบครบวงจร แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

     1.1) SkillLane for Public แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไป

      1.2) SkillLane for Business แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับองค์กร

      1.3) SkillLane for Online Degrees แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับปริญญาออนไลน์

      2) ธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา (SkillLane Innovation)

    ด้านผลประกอบการของบริษัท ปี 2564 - มิ.ย. 2567 มีดังนี้  

    - ปี 2564 มีรายได้รวม 211.77 ล้านบาท
    - ปี 2565 มีรายได้รวม 221.04 ล้านบาท
    - ปี 2566 มีรายได้รวม 236.58 ล้านบาท
    - ปี 2567 (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน) มีรายได้รวม 157.34 ล้านบาท

    บริษัทฯ จะระดมทุนผ่านการขายหุ้น IPO 15 ล้านหุ้น โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินไปใช้ ใน 3 ส่วน ได้แก่

     1. เพื่อใช้สำหรับพัฒนาแพลตฟอร์มของบริษัทฯ และการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)

     2. เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา (SkillLane Innovation)

     3. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

      ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 พบว่ามีผู้ถือหุ้น 3 ครอบครัวหลัก ได้แก่

     1. กลุ่มครอบครัวพิสิฐวุฒินันท์ มีจำนวนหุ้นรวม 23.7 ล้านหุ้น หลังการเสนอขายคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 23.73% 

     2. กลุ่มครอบครัวอัศวรุจิกุล มีจำนวนหุ้นรวม 22.7 ล้านหุ้น หลังการเสนอขายคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 23.73%

     3. กลุ่มครอบครัวโอสถานุเคราะห์ มีจำนวนหุ้นรวม 14.2 ล้านหุ้น หลังการเสนอขายคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 14.27%



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ผลสำรวจเผยประชาชนไทยส่วนใหญ่ 99.7% มีภาระหนี้สิน เฉลี่ยครัวเรือนละ 6 แสนบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine