ตลท. เผยตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจ แม้ SET Index สิ้นเดือน ม.ค. 68 ลดลง 6.1% วอลุ่มเทรดร่วง 17.2% - Forbes Thailand

ตลท. เผยตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจ แม้ SET Index สิ้นเดือน ม.ค. 68 ลดลง 6.1% วอลุ่มเทรดร่วง 17.2%

หลังท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้โลกการเงินมีความผันผวนสูงขึ้น ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์หลังพิธีสาบานตนในวันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสหรัฐฯ และทั่วโลก โดย IMF มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่มีความเสี่ยงด้านลบในประเทศอื่นๆ จากความไม่แน่นอนของนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ยากขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า


    นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เงินลงทุนกระจุกตัวอยู่ในหุ้น AI เพียงไม่กี่ตัว มีโอกาสเกิดปรับฐานครั้งใหญ่ อีกทั้งความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย มีโอกาสที่ FED อาจต้องปรับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าคาด ส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์เคลื่อนย้ายออกจากสหรัฐฯ กลับมายัง Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจจากการที่เป็นตลาดที่มีความผันผวนต่ำ โดยพิจารณาจากค่า End of day volatility ของ SET Index สาเหตุหนึ่งมาจากเป็นตลาดหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทน dividend yield สูงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2000 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.14% จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีลักษณะ Defensive Stock

    ทั้งนี้ ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยพบว่าสิ้นเดือนมกราคม 2568 SET Index ปิดที่ 1,314.50 จุด ทำให้ในเดือนแรกปี 2568 SET Index ปรับลดลง 6.1% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มการเงิน และกลุ่มพลังงาน

    ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 39,006 ล้านบาท ลดลง 17.2% จากเดือนมกราคม 2567 อย่างไรก็ตาม เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด 4 เดือนต่อเนื่อง


    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจในเดือนมกราคม 2568 ได้แก่

    - มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. โปร อินไซด์ (PIS)

    - Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 15.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า

    - อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 3.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.28%

    ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนมกราคม 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,493 สัญญา ลดลง 27.3% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ทำให้ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,493 สัญญา ลดลง 27.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures



ภาพ: ตลท.



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : กรุงไทยเผยเช้านี้เงินบาทเปิด “อ่อนค่าลงหนัก” ที่ระดับ 33.89 บาทต่อเหรียญฯ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine