เอสซีบี อบาคัส (SCB Abacus) ประกาศรีแบรนด์ชื่อเป็น อบาคัส ดิจิทัล (ABACUS digital) วางวิสัยทัศน์ผู้สร้างโอกาสที่ดีขึ้นให้แก่ทุกคน ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่กลุ่มคนเครดิตน้อย หลังจากสามารถวางรากฐานสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน MoneyThunder เติบโตแข็งแกร่ง ด้วยยอดปล่อยสินเชื่อสูงถึง 3-4 เท่าต่อปี และควบคุม NPL ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าตลาดถึง 3 เท่า พร้อมวางเป้าหมาย IPO ภายในปี 2568
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ABACUS digital เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจรีแบรนด์ชื่อเป็น ABACUS digital เพื่อสะท้อนในวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้สร้างโอกาสที่ดีขึ้นให้แก่ทุกคน (Give Everyone a Real Chance) ผ่านการใช้เทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน และสร้างโอกาสทางการเงินให้กับกลุ่มคนที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนเครดิตน้อยที่ปัจจุบันใช้เงินกู้นอกระบบ ทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นในผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละจังหวะชีวิต รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองนี้ไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต
“สินเชื่อออนไลน์ MoneyThunder ได้ช่วยตอบโจทย์ในมิติการให้โอกาสคนเครดิตน้อยได้มีสภาพคล่อง ซึ่งในขั้นต่อไป ABACUS digital วางเป้าหมายในการใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ในมิติการสร้างสินทรัพย์ สร้างธุรกิจ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า โดยเหตุผลที่สนับสนุนความเชื่อมั่นในการขยายธุรกิจที่กว้างมากกว่าสินเชื่อนั้น เนื่องจากสินเชื่อเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความมั่นคงทางการเงินของลูกค้า”
ABACUS digital เริ่มต้นธุรกิจจากการให้บริการสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน MoneyThunder ด้วยจุดเด่นการใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองที่เรียกว่า Abacus Core Technology (ACT) engine ซึ่งเป็นระบบวิเคราะห์สินเชื่อแบบเรียลไทม์ช่วยเปิดโอกาสให้คนที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ด้วยทีมงานไม่ถึงร้อยคน จนสามารถปล่อยสินเชื่อขนาดเล็กให้กับลูกค้าที่ต้องการเริ่มสร้างเครดิตด้วยวงเงิน 800 บาท ไปจนถึงวงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท
โดยปัจจุบัน MoneyThunder มีผู้สนใจสมัครสินเชื่อสูงถึง 200,000 รายต่อเดือน ด้วยความเข้าใจในตลาดสินเชื่อออนไลน์ และการมีเทคโนโลยีของตัวเองสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนระดับโลกว่าบริษัทมีศักยภาพมากเพียงพอและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง สามารถระดมทุนรวมได้กว่า 1,500 ล้านบาททั้งในระดับซีรีย์ A และซีรีย์ B ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงสุดในกลุ่มธุรกิจ Digital Lending ของไทยเพื่อรองรับการให้บริการสินเชื่อที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ย 3-4 เท่าต่อปี
ดร.สุทธาภา กล่าวต่อว่า ABACUS digital อยู่ระหว่างการระดมทุนในระดับซีรีย์ C เพื่อรองรับการเติบโตในปี 2567 พร้อมกันนี้ ได้วางแผนในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมฐานทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการวางรากฐานธุรกิจที่มากกว่าสินเชื่อออนไลน์ ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย
Max Your Options เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ยืดหยุ่น ปัจจุบัน 40% ของลูกค้า MoneyThunder เป็นกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารมาก่อน บริษัทมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลทางเลือก (alternative data) ที่หลากหลายในการวิเคราะห์ความเสี่ยงสินเชื่อ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้ลูกค้ารักษาเครดิตของตนเองได้ดีต่อเนื่อง อาทิ การให้ลูกค้ากำหนดหรือเปลี่ยนแปลงค่างวดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในชีวิต
Design Your Life ตอบโจทย์ลูกค้าแบบ 360 องศาด้วยบริการทางการเงินที่หลากหลาย การให้บริการสินเชื่อเงินสดเป็นเพียงการตอบโจทย์ขั้นต้น ลูกค้ายังคงมองหาบริการทางการเงินด้านอื่นๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในมิติที่แตกต่าง จะช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและตรงใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากบริการด้านสินเชื่อ
Empower Your Tech ต่อยอดให้กับธุรกิจของพาร์ทเนอร์ด้วยเทคโนโลยี in-house ของบริษัท บริษัทพัฒนา Abacus Core Technology (ACT) ให้สามารถรองรับผู้ใช้งานขนาดใหญ่ และมีความโดดเด่นด้านความเข้าใจลูกค้าไทย ด้วยจุดแข็งดังกล่าวจึงสามารถช่วยต่อยอดธุรกิจให้กับพาร์ตเนอร์ที่มีความต้องการขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าของตน อาทิ เทคโนโลยีวิเคราะห์เอกสารการเงินต่างๆ ด้วย AI เทคโนโลยีวิเคราะห์และปรับปรุง customer experience สำหรับธุรกิจที่ต้องการนำเสนอบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : แกร็บมาร์ท ส่งกลยุทธ์ “Habitual Marketing” ลุยตลาดควิกคอมเมิร์ซครึ่งปีหลัง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine