ไทยพาณิชย์ เสริมแกร่งธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยเต็มรูปแบบผ่าน ไทยพาณิชย์ โพรเทค เติมเต็มช่องว่างตลาดแมส พร้อมสร้างอาชีพในท้องถิ่นทั่วประเทศสู่ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองดูแลคนในพื้นที่มากกว่า 500 คนในปีนี้
ปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัดเปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและการวางแผนทางการเงินจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ในปัจจุบันมีความต้องการด้านความคุ้มครองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ธนาคารให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะให้การบริการเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าได้ value มากกว่าแค่การทำประกัน ซึ่งเราเริ่มในบางส่วนแล้วเช่น health eco system ที่จะมีบริการอื่นๆ ตามมา ขณะนี้บนฐานลูกค้าทั้งหมด 16 ล้านคนพบว่าลูกค้ากลุ่มแมสของธนาคารมีประกันเพียงรายละ 3” ปรมาศิริ กล่าวถึงความมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับสังคมไทยทุกระดับเพื่อให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด ดังนั้น ธนาคารจึงได้ตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยอย่างเต็มรูปแบบผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัทไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันภัย เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินพื้นฐานที่ทุกครอบครัวควรจะมีเพื่อปกป้องคุ้มครองทำให้คนไทยพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆในชีวิตได้ด้วยตนเองและประเทศไทยยังมีช่องว่างในเรื่องความคุ้มครองอยู่อีกมาก “ไทยพาณิชย์ โพรเทคจะเป็นตัวขับเคลื่อนในการขยายตลาดแมสของธนาคาร ด้วยความเชื่อมั่นในระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลที่ทันสมัยประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ที่ประจำอยู่ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้รับการอบรมเป็นอย่างดี โดยจะทำให้ไทยพาณิชย์ โพรเทคสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงใจด้วยผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่หลากหลาย เน้นความคุ้มค่า พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่รวดเร็วและเข้าถึงง่าย ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและความพึงพอใจจากการบริการของไทยพาณิชย์ โพรเทค” สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการหลักของบริษัท ได้แก่ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันทรัพย์สิน และประกันออมทรัพย์ ซึ่งคุ้มครองครอบคลุมทุกช่วงเวลาตั้งแต่การหารายได้ การใช้จ่าย การออมเงิน และการส่งต่อเงินให้กับผู้ที่ห่วงใย เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต ขณะเดียวกันบริษัทยังวางเป้าหมายเพิ่มจำนวน Protection Consultant ตำบลละ 1 คนทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นให้เป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งเข้าใจถึงปัญหาและอุปสรรคของคนในพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่นำเสนอแผนความคุ้มครองด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัยให้ลูกค้า รวมถึงให้บริการลูกค้าหลังการขายอย่างใส่ใจ นอกเหนือจากช่องทางการขายอื่นๆ เช่น ดิจิทัล และเทเลเซลส์ อย่างไรก็ตาม ขนาดของเบี้ยประกันจากไทยพาณิชย์ โพรเทคจะเล็กกว่าช่องทางอื่นๆของธนาคารเพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงทั้งประเทศ ซึ่งช่วงแรกของการสร้างทีม Protect Consultant ได้วางเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าในแต่ละเดือนได้มากกว่าตลาดอย่างน้อย 5 เท่า เมื่อเทียบกับตัวแทนที่ขายประกันที่เฉลี่ยมีการเข้าถึงลูกค้าประมาณ 1.7 รายต่อเดือน ดังนั้น หน้าที่ของบริษัทในการขยายสู่ตลาดแมสจึงมุ่งเน้นการการออกแบบแพ็คเกจความคุ้มครองและการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเพื่อช่วยในการขายและการบริการ รวมถึงการอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครอง และความเข้าใจความแตกต่างของลูกค้า ภายใต้โจทย์การมีส่วนช่วยเติมเต็มให้คนไทยสามารถเข้าถึงประกันทุกรูปแบบได้สะดวก และคุ้มค่าที่สุด โดยต้องการเห็นคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันเพิ่มขึ้นให้มากที่สุดจากปัจจุบันที่มีประมาณร้อยละ 30 “ในวันที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน เรากำลังจะจ้างคนจำนวนมาก โดยบริษัทจะเตรียมเรื่องการอบรม การพาไปสอบใบอนุญาตนายหน้าประกัน และการใช้เทคโนโลยีเพิ่มความรู้ให้กับทีมงานของเราอยู่ตลอด เพื่อให้คงความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะมี Protection Consultant อย่างน้อย 500 คนในปีนี้ ส่วนเรื่องของธุรกิจภายใต้ไทยพาณิชย์ โพรเทค คาดจะเริ่มได้ในปลายไตรมาสสามของปีนี้” ปรมาศิริ ย้ำถึงความมุ่งมั่นและเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยมีความคุ้มครองและเข้าสู่การออมอย่างเป็นระบบบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทุกความไม่แน่นอนในอนาคต อ่านเพิ่มเติม: นกปีกหัก: วิกฤต “อุตสาหกรรมการบินโลก” ในยุคโควิด-19ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine