คลังสั่งการบ้าน สศค. เร่งขยายฐานภาษี แก้ปัญหา 'หนี้นอกระบบ - เข้าไม่ถึงสินเชื่อ’ - Forbes Thailand

คลังสั่งการบ้าน สศค. เร่งขยายฐานภาษี แก้ปัญหา 'หนี้นอกระบบ - เข้าไม่ถึงสินเชื่อ’

คลัง สั่งการบ้าน สศค. ทำแผน ‘ขยายฐานภาษี’ ดึงคนไทยเข้าระบบมากขึ้น แต่ย้ำว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังเปราะบางไม่พร้อมให้ปรับอัตราภาษี เร่งแบงก์รัฐอุดช่องโหว่ธนาคารพาณิชย์ เน้นต้องร่วมมือกับ ธปท. เผยกำลังพิจารณานโยบายกระตุ้นการออมแก้ปัญหาคนไทยแก่แล้วยังจน และเชื่อว่าหากมีผลจากมาตรการรัฐที่ออกมาจะทำให้ GDP ไทยเกินกรอบคาดการณ์ปีนี้ที่ 2.4%


    เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ว่า สศค. เป็นเหมือนมันสมองของประเทศจึงต้องคิดให้นอกกรอบ ทันยุคสมัย และเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงไม่เพียงแต่ตามหลักวิชาการเท่านั้น

    ทั้งนี้ ได้มอบหมายนโยบายเรื่องการปรับโครงสร้างภาษี โดยมุ่ง ‘ขยายฐานภาษี’ ทำให้คนเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น รวมถึง ‘การขยายเศรษฐกิจ’ ให้เติบโตขึ้นเพื่อนำสู่รายได้ทางภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลดเศรษฐกิจนอกระบบลง อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง และไม่เหมาะสมที่จะปรับ ‘อัตราภาษี’ ซึ่งจะสร้างผลกระทบมากกว่า

    ด้านนโยบายเกี่ยวกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) หรือแบงก์รัฐ ต้องมาช่วยอุดช่องว่างทางการเงิน และทำในเรื่องที่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่ได้ทำ เช่น การเข้าถึงสินเชื่อของรายย่อย ฯลฯ (เพราะธนาคารพาณิชย์รับความเสี่ยงได้จำกัด)

    อย่างไรก็ตาม ทาง สศค. ต้องมีการร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้เกิดนโยบายการคลังที่สอดคล้องกับนโยบายการเงิน โดยมองว่าความท้าทายตอนนี้คือ อาจมีการประเมินเศรษฐกิจ ที่ไม่ตรงกัน จึงต้องคุยกันให้มากขึ้น

    นอกจากนี้ จากประเด็นปัญหาการออมของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ และสูงวัยแต่ยังมีเงินออมน้อย ทางกระทรวงการคลังกำลังพิจารณานโยบายที่สร้างแรงจูงใจในการออม จากที่ปัจจุบันการออมภาคสมัครใจไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับแก้ปัญหาหนี้นอกระบบผ่าน พิโกไฟแนนซ์ ที่จะช่วยดึงเจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ในระบบ

    ช่วงที่เหลือของปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีงบประมาณของภาครัฐทั้งปี 2567 และปี 2568 และเม็ดเงินโครงการ Digital Wallet น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้มากกว่ากรอบที่ สศค. ประเมินไว้ที่ 2.4% (ประมาณการนี้ยังไม่ได้รวมผล Digital Wallet) แต่ยังต้องติดตามผลว่าหากเริ่มใช้ Digital Wallet เม็ดเงินจะเกิดขึ้นในสิ้นปีหรือเห็นผลในปีหน้า นอกจากนี้คลังยังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องมาตรการสินเชื่อกระตุ้นเมืองรอง และอาจรวมถึงมาตรการ IGNITE THAILAND ที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมหลักๆ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : AOT กำไรล้น! ไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5,972.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209.22%YoY รับผลดีมาตรการรัฐ-ฟรีวีซ่า

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine