กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เดือน พ.ค. 67 ยอดจดทะเบียนเลิกกิจการพุ่ง 23.95% จากเดือน เม.ย. 67 โดยภาพรวมทุนจดทะเบียนเลิกอยู่ที่ 54,804.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 975.26% ผลจาก 2 บริษัทใหญ่เลิกกิจการ ขณะที่ 5 เดือนแรกยอดตั้งบริษัทใหม่อยู่ที่ 39,032 ราย โตชะลอผลคนกังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นช้า
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ค. 2567 การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,004 ราย เพิ่มขึ้น 23.95% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 2567 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 พบว่า ลดลง 18.64%
ขณะที่ ทุนจดทะเบียนเลิกอยู่ที่ 54,804.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงที่ 49,707.54 ล้านบาท คิดเป็น 975.26% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 46,564.47 ล้านบาท คิดเป็น 565.11% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 2566 สาเหตุที่มูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกสูงผิดปกติเป็นผลมาจากการเลิกประกอบกิจการของ 2 บริษัทขนาดใหญ่ที่มีการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของธุรกิจให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
สำหรับเดือน พ.ค. 67 ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 3 อันดับแรก ได้แก่
- ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 98 ราย (คิดเป็นสัดส่วน 9.76% ของจำนวนการเลิกประกอบกิจการ)
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 59 ราย (คิดเป็นสัดส่วน 5.88% ของจำนวนการเลิกประกอบกิจการ)
- ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการอื่นๆ 25 ราย (คิดเป็นสัดส่วน 2.49% ของจำนวนการเลิกประกอบกิจการ)
ทั้งนี้ ในเดือน พ.ค. 2567 มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 7,499 ราย เพิ่มขึ้น 14.84% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 62 ราย เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 2566 ข้อสังเกตคือ มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 21,887.12 ล้านบาท ลดลง 19.74% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 2567 และลดลง 22.97% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 2566
โดยเดือน พ.ค. 67 มีธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 662 ราย (คิดเป็นสัดส่วน 8.83% ของการจัดตั้งธุรกิจใหม่)
- ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 543 ราย (คิดเป็นสัดส่วน 7.24% ของการจัดตั้งธุรกิจใหม่)
- ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 353 ราย คิดเป็นสัดส่วน 4.71% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่)
การจดทะเบียนจัดตั้ง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปี 2567 มีจำนวน 39,032 ราย มีอัตราการจัดตั้งลดลงเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค. 66) คาดว่าเป็นผลจากผู้บริโภคยังคงมีความกังวลกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า เสถียรภาพทางการเมือง และความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ของโลกที่ยังคงยืดเยื้อ แม้จะมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ เช่น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเพื่อการท่องเที่ยว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการส่งออกที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังคาดการณ์ว่ายอดจดทะเบียนธุรกิจ ทั้งปี 2567 มีอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566 โดยคาดการณ์ตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 44,000 - 47,000 ราย
ปัจจุบัน (31 พ.ค. 2567) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,916,267 ราย โดยจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 916,634 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 22.26 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นบริษัทจำกัดจำนวน 714,143 ราย คิดเป็น 77.91% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 16.02 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจำนวน 201,031 ราย คิดเป็น 21.93% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 0.47 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,460 ราย คิดเป็น 0.16% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 5.77 ล้านล้านบาท
Photo by Masaaki Komori on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SCBX แจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 2567
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
