'ลงทุนแมน' ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เสนอขาย IPO ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น - Forbes Thailand

'ลงทุนแมน' ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เสนอขาย IPO ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น

ศูนย์ข้อมูลบริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH เจ้าของเพจลงทุนแมน ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


     นายธณัฐ เตชะเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH เริ่มก่อตั้งเพจ “ลงทุนแมน” ในปี 2560 และมี Macro-Influencer (ผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน) อีก 5 แบรนด์ อาทิ ลงทุนเกิร์ล, MarketThink, BrandCase, MONEY LAB และ Mao-Investor 

     นอกจากนี้ LTMH เป็นผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร และยังมีแพลตฟอร์มสื่อ Blockdit ที่พัฒนาโดยหน่วยงานเทคโนโลยีของ LTMH ที่มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly Active Users) ประมาณ 2,000,000 คน (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567) 

     ในขณะเดียวกัน LTMH ยังได้เข้าลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ของบริษัทฯ เช่น การเข้าลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.

     อย่างไรก็ตาม LTMH มีแผนที่จะขยายสู่ธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง บริษัทฯ จึงได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบธุรกิจให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และ/หรือ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อขออนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะสามารถยื่นคำขออนุญาต ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567

     ในด้านผลประกอบการพบว่า งบการเงินของบริษัทฯ งวดบัญชีปี 2564 - 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 118.06 ล้านบาท, 173.90 ล้านบาท และ 225.77 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 47.29% ในปี 2565 และ 29.83% ในปี 2566 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 38.29% ในช่วงปี 2564 - 2566 โดยสัดส่วนรายได้ปี 2566 มาจากธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ (ออนไลน์) 92.5%, รายได้จากธุรกิจออฟไลน์ 6.7% และรายได้อื่น ๆ อีก 0.8%

     “กลยุทธ์หลักของบริษัทฯ คือ มุ่งส่งเสริมการเติบโต โดยการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจ ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างรายได้ในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญจากธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตของธุรกิจเดิมอย่างเหมาะสม” นายธณัฐ กล่าว



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อ่านกลยุทธ์ SC Asset ขยายธุรกิจใหม่ ‘โรงแรม-คลังสินค้า’ ผ่าน SCX อัดงบ 20,000 ล้าน ใน 5 ปี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine