หลังจากเกิดข่าวด้านลบกรณีนักแสดงชาวจีนหายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าอาจส่งผลให้กลุ่มจีนเที่ยวไทยลดลงถึง 17.5% ในช่วงตรุษจีนปี 68 นี้ และภาพรวมทั้งปียังมีความท้าทายจาก 4 ประเด็น ‘ความปลอดภัย-กำลังซื้อจีนไม่ฟื้นตัว-การแข่งขันสูง-พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน’ แต่ยังคาดว่าปี 2568 นี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยรวม 7.5 ล้านคน เดิบโต 11.4% จากปี 2567 โดยมีสัดส่วน 68% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2562
ย้อนรอย ‘จีนเที่ยวไทยลดลง’ หลังเกิดเหตุการณ์ด้านลบ
ต้นปีนี้กระแสข่าวในโซเชียลมีเดียของจีน คงหนีไม่พ้นกรณีนักแสดงจีนหายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา หลังจากเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย แม้ว่าหลังจากนั้นทางการไทยจะประสานงานและพาตัวนักแสดงจีนกลับสู่ประเทศจีนได้ แต่ในสังคมจีนยังมีกระแสความกังวลถึงการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย แต่เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อไทยแค่ไหน
ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ไว้ว่า จากกรณีนักแสดงจีนฯ ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบในระยะสั้น เบื้องต้นคาดว่านักท่องเที่ยวจีนมาไทยในช่วงตรุษจีนปี 2568 (28 ม.ค.-4 ก.พ. 2568) ที่จะลดลงเหลือ 175,000 คน ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปี 2567 (10-17 ก.พ. 67) ที่อยู่ราว 212,000 คน
นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังเปิดเผยสถิติในอดีต ทั้งกรณีเรือล่มนักท่องเที่ยวจีนที่ภูเก็ต เมื่อ 5 ก.ค. 2561 พบว่าส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 12% ต่อเดือน ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนหลังจากนั้น ส่วนกรณีข่าวเหตุยิงที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงย่านสยามเมื่อ 3 ต.ค. 2566 พบว่าส่งผลกระทบประมาณ 1 เดือน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงเฉลี่ย 13% ต่อสัปดาห์
แม้ว่าข้อมูลในอดีตจะสะท้อนถึงผลกระทบในระยะสั้น แต่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูงเช่นกัน

นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป กับ 4 โจทย์ท้าทายที่ไทยต้องเผชิญ
ประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางที่คนจีนเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งถ้าย้อนไปดูช่วงก่อน COVID-19 อย่างปี 2562 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11.1 ล้านคน และสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวมากมาย แต่ปัจจุบันสถานการณ์ทั้งในไทย และจีนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้การฟื้นตัวและการเติบโตของกลุ่มจีนเที่ยวไทย ไม่เหมือนเดิม
ฝั่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่ามี 4 ความท้าทายที่อาจทำให้การเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2568 อาจยากกว่าในอดีต ได้แก่
1. ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย ผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนโดย Oliver Wyman มองว่าประเทศไทยซึ่งเป็นที่นิยมมายาวนาน กลับได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนมีความกังวลด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนได้จากกรณีที่เกิดขึ้นกับดาราจีนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คนจีนมีการยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในไทย หรือมองหาจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ ดังนั้นไทยควรเร่งฟื้นความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบระยะยาว
2. เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงจากสงครามการค้า ทำให้กำลังซื้อชาวจีนบางกลุ่มยังไม่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนที่ผันผวนในทิศทางอ่อนค่า ทำให้ในปี 2568 ทิศทางการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนจีนอาจยังไม่กลับสู่ระดับก่อน COVID-19 ปี 2562 (จำนวน 155 ล้านทริป) และคนจีนจะมีการเปรียบเทียบจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับงบประมาณ ซึ่งก็อาจมีผลต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ไทย โดยในช่วงที่ผ่านมา ประเทศที่มีค่าเงินที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินหยวนมีอัตราการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนดีกว่าไทยที่มีค่าเงินแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินหยวน
3. การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่สูง ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศใช้นโยบายวีซ่าฟรีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน โดยข้อมูลจาก VisaIndex พบว่า มี 44 ประเทศที่คนจีนสามารถเดินทางไปเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า และ 36 ประเทศที่สามารถขอวีซ่าได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางสะดวกและมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น จากนโยบายเหล่านี้ทำให้การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนในหลายประเทศดีกว่าไทย จนในปี 2567 ประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสูงกว่าไทยแล้ว
4. พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป เช่น ท่องเที่ยวด้วยตนเอง, กรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็ก มองหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อย่างตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ผลจากนโยบายฟรีวีซ่าของไทยอาจทำให้ชาวจีนวางแผนก่อนเดินทางเพียง 1 เดือน ฯลฯ ซึ่งเมื่อมีความต้องการที่หลากหลายอาจทำให้การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนอาจยากขึ้น

คาดจีนเที่ยวไทยปี 68 แตะ 7.5 ล้านคน ยังโต 11.4% แต่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าปี 62
แม้จะมีความท้าทายเพิ่มขึ้น แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคาดว่าปี 2568 นี้ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะมีจำนวน 7.5 ล้านคน เติบโต 11.4% จากปี 2567 หรือกลับมา 68% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2562 (11.1 ล้านคน) โดยการเติบโตนี้ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการวีซ่าฟรี และค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวไทยไม่สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ
ทั้งนี้ข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วงวันที่ 1-19 ม.ค. 2568 ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวมีจำนวนกว่า 3.5 แสนคน เติบโตประมาณ 14.2% (YoY)

สุดท้ายนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นส่วนสร้างรายได้สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งทางการยังต้องให้ความสำคัญทั้งด้านความปลอดภัย และการปรับปรุงภาพรวมการท่องเที่ยวไทยให้ดึงดูด กลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย
ภาพ : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, Waranont (Joe) on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : กรุงเทพฯ ครองใจนักท่องเที่ยวจีน 2 ปีซ้อน! ติดอันดับ 4 ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดฮิตช่วงวันชาติจีน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine