KCG เปิดผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ทำกำไรสุทธิ 76.7 ล้านบาท เติบโต 38.7% ยอดขายรวม 1,752.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ครองอันดับ 1 ส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์เนยและผลิตภัณฑ์ชีสอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความมั่นใจในการเข้าสู่ไตรมาส 4 รับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ด้วยการเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภคในช่วงเทศกาล และการสร้างความเชื่อมั่นจากความยั่งยืน
ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 เติบโตอย่างต่อเนื่อง KCG มียอดขายรวม 1,752.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% และมีกำไรสุทธิ 76.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในส่วนของยอดขายจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีรายละเอียด ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,063.4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.7%
- ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ (FBI) มียอดขาย 507.8 ล้านบาท สัดส่วน 29%
- ผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มียอดขาย 181.4 ล้านบาท สัดส่วน 10.3%
ในส่วนของช่องทางการขายต่างๆ มีรายละเอียด ดังนี้
- ช่องทางการขายให้ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 763.3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43.5%
- ช่องทางการขายให้ผู้บริโภค (B2C) มียอดขาย 921.2 ล้านบาท สัดส่วน 52.6%
- ช่องทางการส่งออกยอดขาย 68.1 ล้านบาท สัดส่วน 3.9%
KCG มีการดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์การพัฒนาใน 7 มิติ ซึ่งครอบคลุมถึงการพัฒนานวัตกรรมและการออกสินค้าใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลกำไรในไตรมาส 3 ออกมาอย่างน่าประทับใจ
“ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ไตรมาส 4 ซึ่งเป็นฤดูการขายอย่างแท้จริงของ KCG โดยบริษัทฯ ได้เพิ่มการผลิตและการกระจายสินค้าเพื่อรองรับความต้องการซื้อสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ และการจับจ่ายใช้สอยจากภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HORECA) บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 และปี 2567 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย” ดำรงชัย กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิด 5 อันดับบริษัทอสังหาไทยที่มีรายได้สูงสุดในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine