หลังเกิดเหตุระบบล่มของแอปพลิเคชั่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าของธนาคารจำนวนมากไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบได้จนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นติดเทรนด์บนโลกโซเชียล ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย จึงได้ออกมาประกาศล่วงหน้า ถึงวันและเวลาในการปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนต่อกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งาน
จากกรณีความเดือดร้อนของกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบได้เกือบตลอดทั้งวันเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากระบบเกิดความขัดข้อง โดยประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากด้วยการโพสต์ทวีตข้อความพร้อมติดแฮชแท็ก #กสิกรล่ม จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตติดกระแสอยู่ในทวิตเตอร์
ทั้งนี้ ทางธนาคารกสิกรไทยเอง ได้มีการโพสต์แจ้งข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก KBank Live โดยระบุ ขออภัยในความไม่สะดวก ธนาคารอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว โดยต่อมาในเวลา 22.02 น. ก็ได้มีการโพสต์อัปเดตความคืบหน้าอีกครั้ง ว่าระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว พร้อมขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB และ ธนาคารกรุงไทย จึงได้ประกาศอัปเดต ให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ได้ทราบถึงวันและเวลาที่จะมีการ “ปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว” ล่วงหน้าด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นซ้ำรอยธนาคารกสิกรไทย
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ขอแจ้งปิดบริการ SCB EASY App ชั่วคราว ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 00.00-06.00 น. ซึ่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ลูกค้าจะสามารถใช้บริการ SCB EASY App ได้ตามปกติ
ขณะที่ ธนาคารกรุงไทย จะทำการพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่น เป๋าตุงกรุงไทย โดยแบ่งเป็น 2 รอบ ในช่วงวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. ถึงวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 เวลา 01.00 น. และ ในช่วงวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. ถึงวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เวลา 01.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ไม่สามารถเช็คดูรายการชำระเงินได้ชั่วคราว ส่วนบริการอื่นๆ สามารถใช้บริการได้ตามปกติ
อ่านเพิ่มเติม: “ซิซซา กรุ๊ป” มั่นใจจุดแข็งการลงทุนแบบ IP เป็นเจ้าของร่วม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต”
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
