ทองคำร่วงแรง! แค่ช่วงเช้านี้เปลี่ยน 16 ครั้ง ลดลงรวม 1,500 บาท นักวิเคราะห์คาดแนวรับ 52,500 บาท - Forbes Thailand

ทองคำร่วงแรง! แค่ช่วงเช้านี้เปลี่ยน 16 ครั้ง ลดลงรวม 1,500 บาท นักวิเคราะห์คาดแนวรับ 52,500 บาท

ราคาทองคำร่วงแรง แค่ช่วงเช้าวันที่ 23 เม.ย. 68 เปลี่ยนแปลงถึง 16 ครั้ง ลดลงรวม 1,500 บาท ฝั่งนักวิเคราะห์คาดแนวรับ 52,500 บาท จากแรงขาย แต่ไตรมาส 2/68 ยังอยู่บนปัจจัยเดิมทั้งสงครามการค้าที่อาจทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย และความต้องการซื้อทองคำเพื่อลดรับมือความเสี่ยงที่เกิดขึ้น


    สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยราคาทองคำช่วงเช้าวันนี้ (23 เม.ย.) เพียง 2 ชั่วโมงกว่า ราคาทองคำเปลี่ยนแปลง 16 ครั้ง โดยปรับตัวลดลง 13 ครั้ง (รวม 1,500 บาท) เพิ่มขึ้น 3 ครั้ง (รวม 150 บาท) ล่าสุดช่วง 11.47 ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 53,100 บาทต่อบาททองคำ

    ทั้งนี้ ราคาทองคำมีความผันผวนมาก สะท้อนจากเมื่อ 22 เม.ย. 68 พบว่าราคาทองคำเปลี่ยนแปลงรวม 36 ครั้ง โดยเมื่อวานนี้ปิดตลาดที่ระดับ 54,450 บาทต่อบาททองคำ

    อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งจากกระแสการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และความเสี่ยงจากนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เพิ่มความกังวลต่อการถดถอยของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความต้องการทองคำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ คาดว่าปัจจัยเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 68 นี้

ที่มา สมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำ ณ 23 เม.ย. 68


    กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ราคาทองคำโลกลดลง 44 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ระดับ 3,379 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หลังจากทำ All-time high ที่ 3,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หากย้อนดูจะพบว่า ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 3,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ไปที่ 3,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ใช้เวลาเพียง 39 วันเท่านั้น ซึ่งจากผลตอบแทนที่ราว 30% ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา

    นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลงแรงมาจาก นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจาก สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ คาดว่าความขัดแย้งด้านการค้าสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า แม้การเจรจากับจีนมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อ แต่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต่างก็ไม่คิดว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทางด้านกองทุน SPDR ขายทอง 4.59 ตัน

    ทั้งนี้ ด้านราคาทองคำในประเทศ คาดว่าจะเผชิญแรงขาย หลังทองโลกขึ้นทดสอบ 3,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่ประเมินว่าอาจเหลือ Downside อีกพอสมควร จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 53,000 บาทต่อบาททองคำ โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 54,500 บาท บาทต่อบาททองคำ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 52,500 บาทบาทต่อบาททองคำ ลงไป

    วันนี้มีแนวรับอยู่ที่ 53,000 และ 52,500 บาทต่อบาททองคำ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 54,500 และ 54,800 บาทต่อบาททองคำ



ภาพ : สมาคมค้าทองคำ, Jingming Pan on Unsplash



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สรุปมุมมองแบงก์ชาติ กรณีสงครามการค้ากระทบไทย เมื่อ ‘ใจ’ ทรัมป์เปลี่ยนไปมา

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine