"FTREIT" ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 4 มูลค่าเสนอขายรวมกว่า 2 พันล้านบาท ในเดือนธันวาคมนี้ เตรียมนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้และเพื่อเสริมสภาพคล่องด้วยการเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพิ่มเติม
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้หรือ “FTREIT” เผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำานักงาน ก.ล.ต.) ได้อนุญาตให้บริษัทเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในการเพิ่มทุนครั้งที่สี่ของกองทรัสต์ FTREIT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีจำนวนหน่วยทรัสตท์ที่ออกเพิ่มเติมในครั้งนี้ไม่เกิน 220,000,000 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ตามแผนการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เสนอขายให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่จะทำให้กองทรัสต์มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering)
ธนะรัชต์ บุญญะโกศลกรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อ อุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้หรือ “FTREIT” กล่าวว่า “การเพิ่มทุนเพื่อชำระคืนเงินกู้ในครั้งนี้ จะทำให้กองทรัสต์สามารถลดระดับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ภายใต้สถานการณ์ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสในการเข้าลงทุนทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพิ่มเติมตามแผนดำเนินงาน นอกจากนี้ความสำเร็จของธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยทรัสต์ในตลาดหลกัทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นให้แก่กลุ่มนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ”
ทั้งนี้ FIRM มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้ยืมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมของกองทรัสต์และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมที่นนำมาไถ่ถอนตราสารหนี้ที่ครบกำหนด ซึ่งบริษัทจะสามารถรักษาอัตราที่เหมาะสมของสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อมูลค่าสินทรัพยร์วมของ FTREIT โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์จะมีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในอัตราส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิมต่อ 0.0718 หน่วยของหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม โดยราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 10.00 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งผู้จัดการกองทรัสต์จะประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2566
สำหรับผู้สนใจจองซื้อหน่วยทรัสต์จะต้องชำระค่าจองซื้อในราคาเสนอขายสุดท้ายเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมสามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2566 ที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศตามเวลาเปิดทำการ รวมถึงการจองซื้อผ่านออนไลน์ได้ทั้งทางเว็บไซต์ www.ftreit.co.th และ SCB Easy App ระหว่างวันที่ 16-17ธันวาคม 2566
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : KKP ปรับตัวเลข GDP ปี 2023 เหลือ 2.4% ชี้ Digital Wallet กระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าแค่ชั่วคราว
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine