สมาคมนักวางแผนการเงิน ชี้ทางรอดคนไทย-คนชั้นกลาง ต้องลงมือวางแผนการเงินเดี๋ยวนี้วันนี้! พร้อมจัดทำคู่มือรับเกษียณจากเหตุไม่คาดคิด! ท่ามกลางเศรษฐกิจป่วน โลกผันผวน คนไทยงานหด-เงินหาย-รายได้ลด แต่หนี้ท่วมหัว แถมเสี่ยงตกงาน องค์กรลดคน-ใช้ AI ทำงานแทน โดนกดดันเกษียณอายุ 45 ‘วิวรรณ’ แนะเร่งลงทุนกับตัวเอง เพิ่มความรู้-เสริมทักษะ-พัฒนาตนเอง เพื่ออยู่รอดในยุค AI ครองเมือง!!
สมาคมนักวางแผนการเงินไทยจัดงานเสวนา “วันวางแผนการเงินโลก World Financial Planning Day 2025 ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “วันวางแผนการเงินโลก : การเงินคนไทยต้องรอด” เพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนการเงิน เพื่อความอยู่รอดและสร้างความมั่นคงทางการเงิน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และเศรษฐกิจการเงินของโลกที่ผันผวนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต การเงินการงานอาชีพและรายได้

ขณะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวเติบโตต่ำ ทำให้ภาคธุรกิจลดต้นทุน-ลดกำลังการผลิต กระทบมาถึงรายได้คนทำงาน โบนัสไม่มี-โอทีไม่ได้-เงินเดือนไม่ขึ้น แถมภาคธุรกิจหันมาใช้ AI ทำงานแทนคนในหลายสาขาอาชีพ ทำให้เสี่ยงตกงาน ท่ามกลางภาระหนี้ท่วมหัว สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อจีดีพีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลายองค์กรเริ่มเปิดให้พนักงานสมัครใจเกษียณได้ตั้งแต่อายุ 45 ปี สะท้อนสัญญาณว่าคนไทยอาจต้องเผชิญกับ “ชีวิตการทำงานที่สั้นลง” (20–25 ปี) แต่ “ชีวิตหลังเกษียณที่ยาวนานขึ้น” (35–40 ปี)
ปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนสั่นคลอนต่อฐานะการเงินของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คนชั้นกลาง” ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “เดอะแบก” ที่มีภาระดูแลพ่อแม่ ขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัวตนเอง จากที่เคยมั่นคง อาจกลายเป็น “กลุ่มเปราะบาง” ได้ง่าย หากขาดการวางแผนการเงินที่ดี เพราะรายได้หายไป แต่ภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายครอบครัวยังคงอยู่
เร่งสร้างนักวางแผนการเงินและที่ปรึกษาการลงทุน
ธีรนาถ รุจิเมธาภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อุปนายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย กล่าวในฐานะประธานเปิดงานว่า สมาคมนักวางแผนการเงินไทยได้จัดงานนี้เพื่อให้ประชาชนคนไทย รวมถึงบุคคลากรที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน การลงทุน การประกันภัย และการบริหารความมั่งคั่ง ได้ตระหนักรู้ และเห็นความสำคัญของการวางแผนการเงิน ที่มีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
“เพราะการมีแผนการเงิน ที่ช่วยรับมือกับความไม่แน่นอนในชีวิต จะช่วยลดการสร้างหนี้ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้มุ่งมั่นที่จะสร้างนักวางแผนการเงิน CFP และที่ปรึกษาการเงิน AFPT ที่มีความรู้ความสามารถและมีจรรยาบรรณ เพื่อช่วยแนะนำและวางแผนการเงินให้ประชาชนคนไทยได้มีความมั่งคั่ง มั่นคง ทางการเงินในทุกช่วงชีวิต”
การเงินดี คือสะพานสู่เป้าหมาย-เกราะป้องกันภัย-อิสระในการเลือกอนาคต
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทยคนแรก กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “วันวางแผนการเงินโลก : การเงินคนไทยต้องรอด” ว่า สําหรับนักวางแผนการเงิน คําว่า “การเงินดี” ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขในสมุด แต่คือสะพานที่พาเราไปถึงเป้าหมายของชีวิต คือ เกราะป้องกัน ที่ช่วยให้เรายืนหยัดท่ามกลางพายุ และคือพลังที่ทําให้เรามีอิสระในการเลือกอนาคตที่เราอยากเป็น
จากการสํารวจของ Financial Planning Standards Board พบว่ามีคนเพียง 20% เท่านั้น ที่มั่นใจว่ามีแผนการเงินที่ดีสามารถรับมือกับอนาคตได้เป็นอย่างดี พร้อมรับเหตุฉุกเฉิน มีบ้านเป็นของตนเอง มีการวางแผนเกษียณ การบริหารการเงินของครอบครัว และสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับผู้อื่นได้ ส่วนคนที่เหลืออีก 80% ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับเรื่องการเงินในชีวิตได้ หรือยังไม่มีแผนที่จะทําให้ตนเองรับมือกับเรื่องการเงินในชีวิตได้
“โลกวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจผันผวน เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงทุกนาที ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น การจัดการชีวิต วางแผนรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจึงสําคัญมาก วิกฤตการณ์การเงินโลก การระบาดของไวรัสโควิด-19 มีหลักฐานประจักษ์ชัดว่า คนที่มีการวางแผนการเงินที่ดี ชีวิตมีความมั่นคงกว่า สามารถผ่านช่วงเวลายากลําบาก หรือเหตุไม่คาดฝันในชีวิตได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้วางแผน”
แนะคนไทยเร่งลงทุนพัฒนาตัวเอง
วิวรรณ ได้แนะทางรอดที่สำคัญที่สุด สำหรับคนไทยในขณะนี้คือ ขอให้ทุกคนเร่ง “ลงทุนในตัวเอง” พัฒนาตัวเอง โดยเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและทักษะใหม่ๆ ที่ทันสมัย เพราะความรู้หรือประสบการณ์แบบดั้งเดิมอาจใช้ไม่ได้แล้ว สำหรับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งพลวัตรที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์ ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อมนุษย์ ช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น ลึกขึ้นและไปได้ไกลขึ้น หากไม่เร่งพัฒนาศักยภาพตนเอง โดยเรียนรู้เพิ่มพูนทักษะใหม่ๆ มนุษย์อาจถูกเทคโนโลยี AI กลืนกินเล่นงาน และจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่มีความเสี่ยงตกงานก่อนใคร
“เมื่อเรามีต้นทุนที่ดี ก็มีความสามารถในการหารายได้มากขึ้น หลังจากนั้นต้องเริ่มวางแผนการเงินในทันทีที่มีรายได้ เพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคตให้ตัวเองและครอบครัว หากไม่สามารถวางแผนการเงินได้เอง ต้องหาตัวช่วยที่สำคัญคือ นักวางแผนการเงินอาชีพ ที่จะช่วยวางแผนการเงินให้เราบรรลุเป้าหมายชีวิต”
นอกจากนี้ “ต้องรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีวินัย ใช้น้อยกว่าที่หาได้-เก็บออมให้เป็น-ลงทุนอย่างมีเป้าหมายและหลักการ” แต่ต้องไม่ลืมว่า “เงินไม่ใช่ทุกอย่าง” อย่าเป็นทาสของเงิน และอย่าหลงใหลเป็นทาสของวัตถุ เพราะคุณค่าที่แท้จริงมิได้อยู่ที่สิ่งที่เราครอบครอง แต่อยู่ที่สิ่งที่เราเป็น
การวางแผนการเงินคือคำตอบ
วิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรมกับนักวางแผนการเงินทั่วโลก ที่นครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า วันวางแผนการเงินโลก World Financial Planning Day 2025 ปีนี้จัดงานภายใต้ธีม “Live Your Today - Plan Your Tomorrow” หรือ ‘ใช้ชีวิตวันนี้อย่างมีคุณค่า วางแผนการเงินเพื่อวันหน้าอย่างมั่นคง’ เพื่อรณรงค์ให้คนทั่วโลกได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนการเงิน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของโลก รวมทั้งสถานการณ์ในประเทศไทย งานในปีนี้จึงเน้นย้ำว่า “การวางแผนการเงินคือคำตอบ”
โดยมีสถิติระดับโลกจากงานวิจัยของ FPSB ที่น่าสนใจพบว่า 79% ของผู้ที่วางแผนการเงิน เชื่อว่าช่วยทำให้ฝันในชีวิตเป็นจริงได้ ขณะที่ 73% ของผู้ที่วางแผนการเงินรู้สึกว่ารับมือปัญหาสุขภาพได้ดีกว่า และอีก 51% รายงานว่าการวางแผนการเงินส่งผลดีต่อชีวิตครอบครัว และอีก 51% บอกว่าช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น
คู่มือวางแผนการเงิน รับมือเหตุไม่คาดคิด
ขณะที่สมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้จัดทำข้อแนะนำในการรับมือการวางแผนเกษียณ ครอบคลุม 2 กลุ่มหลัก คือคนทั่วไป และกลุ่มคนที่ถูกให้ออกจากงาน ทั้งที่อายุต่ำกว่า 55 ปี และกลุ่มอายุสูงกว่า 55 ปี เพื่อให้คนไทยเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ไม่คาดคิด ดังนี้
1.กลุ่มคนทั่วไป : นอกเหนือจากเงินฉุกเฉิน 6-12 เดือนแล้ว ต้องวางแผนภาษี ลดความเสี่ยงในชีวิต และวางแผนเกษียณควบคู่กันไปด้วย
สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จะใช้หลัก 4 Magic no. คือ จากรายได้ 100% แบ่งใช้จ่ายดังนี้ 40% นำไปใช้หนี้, 30% ใช้จ่ายทั่วไป, 20% ออมเพื่อตัวเอง และ 10% ทำประกันเพื่อลดความเสี่ยง
นอกจากนี้ต้องไม่เป็นหนี้เกินความจำเป็น และท่องไว้ “ออมก่อนใช้” สุดท้ายใช้หลัก 3 รู้ คือ 1)รู้เป้าหมายชีวิต ลงทุนเพื่ออะไร 2) รู้จักตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน 3) รู้จักเครื่องมือในการลงทุน
2.กลุ่มคนที่ถูกให้ออกจากงาน : ต้องเริ่มจาก
· ตรวจสอบสินทรัพย์เพียงพอหรือยัง เมื่อเทียบกับเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ (ได้แก่ สินทรัพย์ต่างๆ, เงินฝาก, PVD, RMF, ภาษี และเงินชดเชยต่างๆ ที่ได้จากตอนออกจากงาน)
· ตรวจสอบภาระหนี้สินที่มีอยู่ ว่ามีหนี้อะไรบ้าง เพื่อนำมาวางแผนเคลียร์หนี้ โดยต้องเคลียร์หนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงก่อน
· ประมาณการรายได้กับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือนว่ามีรายรับจากอะไร (เช่น ค่าเช่า, ดอกเบี้ย, เงินปันผล เป็นต้น) และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร หากค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับ ต้องพิจารณาว่าตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไหนออกได้บ้าง หรือต้องหารายได้เสริม จากความถนัดของตัวเอง หรือต้อง Upskill / Reskill เพิ่ม โดยลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้แบบนี้วนไป จนกว่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด
เพิ่มเติม กรณีที่ 1 คนที่ถูกให้ออกจากงาน ที่อายุต่ำกว่า 55 ปี ต้องทำดังนี้
o ตรวจสอบประกันสุขภาพว่ามีเพียงพอ
o ตรวจสอบสิทธิประกันสังคมที่พึงได้
o ควรคงเงิน PVD และ RMF ไว้ก่อน!!
o พิจารณาว่าจะหางานใหม่หรือพอแค่นี้
เพิ่มเติม กรณีที่ 2 คนที่ถูกให้ออกจากงาน อายุ 55 ปีขึ้นไป
o การจัดสรรเงินเกษียณ และเงินชดเชยที่ได้ จะบริหารเงินก้อนนี้ยังไง?
o สิทธิรักษาพยาบาล มีอะไรติดตัวบ้าง
o ตรวจสอบสิทธิที่พึงได้จากภาครัฐ เช่น เงินบำนาญจากประกันสังคม, เบี้ยเงินชรา เป็นต้น
o เปรียบเทียบ สิทธิบัตรทอง หรือ ประกันสังคม แบบไหนดีและเหมาะสมกับตัวเองกว่ากัน
o พิจารณาว่า Early Retire หรือทำงานต่อ ถ้าจะทำงานต่อต้อง Reskill ด้านไหนเพิ่มบ้าง
สำหรับประชาชนทั่วไป สมาคมฯ เปิดโอกาสให้ขอคำปรึกษาและรับคำแนะนำเรื่องวางแผนการเงินกับนักวางแผนการเงิน CFP ฟรี 1 ชม.ผ่านออนไลน์ วันที่ 25 ต.ค. 68 รอบเวลา 9.00 -10.00 น. และรอบ 10.15 – 11.15 น. จำกัดเพียงรอบละ 20 คน ลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่ LineID @CFPthailand ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 ต.ค. 68 หรือจนกว่าจะครบสิทธิ์
ภาพ: Freepik
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : มาสเตอร์การ์ดเผย เด็กเจน Alpha เก่งเรื่อง ‘การเงินดิจิทัล’ มากกว่ารุ่นพ่อแม่
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine