เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค. 68 ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25 - 4.50% ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเห็นการส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยประธาน Fed ยังระบุถึงปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างนโยบายภาษีของทรัมป์ และ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับกรณีสงครามยูเครน - รัสเซีย
ตลาดหุ้นบวก! หลัง Fed ประกาศคงดอกเบี้ย
บล. เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลัง Fed ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และยังคงส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.08% ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.92% และ ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.41% ซึ่งในภาพรวมพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ได้แก่ Consumer Discretionary เพิ่มขึ้น 1.90%, Energy เพิ่มขึ้น 1.59% และ Information Technology เพิ่มขึ้น 1.42%
ทั้งนี้ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25 - 4.50% และ Fed ยังคงประเมินผ่าน Dot Plot ว่ามีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ในปี 2568 โดยกรรมการหลายท่านได้ให้น้ำหนักไปทางลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง หรือไม่ปรับลดลงเลย (ในรายละเอียดพบว่ามีกรรมการ 2 ท่าน คาดลด 3 ครั้ง, 9 ท่าน คาดลด 2 ครั้ง, 4 ท่าน คาดลด 1 ครั้ง และมี 4 ท่าน คาดไม่ลด)
ขณะเดียวกัน Fed ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ Core PCE Inflation หรือเงินเฟ้อปี 2568 เป็น 2.8% จาก 2.5% และปรับลดประมาณการ GDP โตเพียง 1.7% จาก 2.1%
ด้านอัตราว่างงานปรับเพิ่มเล็กน้อยเป็น 4.4% จาก 4.3% รวมถึงประกาศชะลอลดงบดุลพันธบัตร (Quantitative Tightening) โดยลดปริมาณการถือครองพันธบัตรรัฐบาลให้ช้าลง จาก 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เหลือ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนเดือน เริ่มเดือนเมษายน ส่วน MBS คงระดับเดิมในการปรับลดที่ 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน

ประธาน Fed รับความไม่แน่นอนยังสูงมาก
นอกจากนี้ตลาดยังติดตามถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ที่ออกมายอมรับว่านโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักเงินเฟ้อขึ้น และกดการเติบโตลง พร้อมระบุว่าความไม่แน่นอนยัง “สูงมาก” แต่ยังเชื่อว่าผลกระทบเงินเฟ้อจากภาษีจะเป็น "ชั่วคราว" (Transitory)
โดย พาวเวลล์ เน้นจุดยืนไม่รีบร้อนปรับนโยบาย ยังต้องรอข้อมูลเศรษฐกิจชัดเจน และต้อง "แยกแยะ สัญญาณแท้จริงจากความผันผวนชั่วคราว"
อย่างไรก็ตาม กรณีสงครามยูเครน - รัสเซีย มีความคืบหน้าว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เห็นชอบข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ในการหยุดโจมตี โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเป็นขั้นแรกเพื่อยุติสงครามยูเครน - รัสเซีย

เงินบาทแข็งค่าขึ้น คาดวันนี้ขยับในกรอบ 33.45 - 33.70 บาท/เหรียญสหรัฐ
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หลัง Fed ประกาศคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ตามคาด โดยยังคงระดับ Median dot plot ไว้เท่าเดิม แต่มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง ปรับเงินเฟ้อขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.45 - 33.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้หลังจาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยได้เปิดเอกสารผลการประชุมในรอบที่ผ่านมา ระบุว่า เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่การลดดอกเบี้ยไม่ใช่จุดเริ่มต้นของวัฐจักรการผ่อนคลายนโยบาย และสามารถรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าได้
ภาพ : investing, Image by freepik
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : มีเงินฝาก ฟรีประกันโรคร้ายแรง! เกียรตินาคินภัทร เปิดตัว KKP Lifecare Saving บัญชีเงินฝากดอกเบี้ย 0.75%/ปี คุ้มครอง 40 โรคร้ายแรง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine