ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ออกมาแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อ 13 ธ.ค. ได้จัดตั้งบริษัทย่อยทางตรงคือ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด หรือ AGP ซึ่งจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยทางอ้อมคือ บริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด หรือ HATF ในสัดส่วน 100% (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed-Use Development ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat
นำสู่คำถามของเหล่านักลงทุนว่า ทำไม ‘ธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค’ ที่มีแบรนด์ Makro และ Lotus's ถึงต้องข้ามมาลงทุนในโครงการอสังหาฯ อย่าง The Happitat ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวข้องกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ที่ปัจจุบันมี ‘ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์’ ลูกสาวคนสุดท้องของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารอยู่
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญที่หลายฝ่ายสงสัยคือ ดีลครั้งนี้ถือเป็น ‘รายการที่เกี่ยวโยงกัน’ หรือไม่ ส่งผลให้ล่าสุดทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จึงส่งหนังสือให้ CPAXT เร่งขี้แจงในกรณีนี้ รวมถึง ตลท. ยังระบุว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเท็จจริงร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หากพบว่าเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน CPAXT ต้องเปิดเผยข้อมูลและดำเนินการตามเกณฑ์ ก.ล.ต. ต่อไป
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันที่ 16 ธันวาคม 2567 (10.30 น.) พบว่า ราคาหุ้นของ CPAXT ร่วงลง 15.83% มาสู่ราคา 29.25 บาทต่อหุ้น ลดลงจากราคาปิดตลาดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.75 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ฟากฝั่ง CPAXT หรือ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เร่งออกมาชี้แจงกรณีนี้ว่า การเข้าลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมลงทุนในหุ้นของ AGP โดยบริษัทฯ เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 95 โดยการชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP เป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท และบริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 5 โดยชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ด้วยทรัพย์สิน คือ หุ้นใน HATF ในสัดส่วนร้อยละ 100 (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น)
คณะกรรมการ ของ CPAXT ได้พิจารณาอนุมัติให้ CPAXT เข้าทำการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat โดยพิจารณาความเหมาะสมของการร่วมลงทุนและมูลค่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้อย่างรอบคอบ โดยมีการพิจารณามูลค่าทรัพย์สินในโครงการ The Happitat ซึ่งได้มีการประเมินมูลค่าโดย ผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) โดยคณะกรรมการตรวจสอบของ CPAXT มิได้มีความเห็นแตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการของ CPAXT
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยง และขนาดรายการเมื่อพิจารณาจากเงินค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ซึ่ง CPAXT ชำระเป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท มีขนาดรายการสูงสุดร้อยละ 1.49 และเมื่อพิจารณารวมจำนวนเงินที่คาดว่าจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการ The Happitat แล้วเสร็จ การร่วมลงทุนของบริษัทฯ ในโครงการ The Happitat จะมีขนาดรายการสูงสุดต่ำกว่าร้อยละ 15 จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศที่เกี่ยวข้อง
ภาพ: CPAXT
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บี.กริม เพาเวอร์ ปรับโครงสร้าง ตั้ง 'ผู้บริหารชุดใหม่' มีผล 1 ม.ค. 2568
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine