ตระกูลจิราธิวัฒน์ เปิดตัว ‘CG Capital’ บริษัทบริหารกองทุน Private Equity - Forbes Thailand

ตระกูลจิราธิวัฒน์ เปิดตัว ‘CG Capital’ บริษัทบริหารกองทุน Private Equity

ตระกูลจิราธิวัฒน์นำโดยผู้บริหาร “ภูมิ จิราธิวัฒน์” เปิดตัว ซีจี แคปปิตอล (CG CAPITAL) บริษัทผู้บริหารกองทุน Private Equity พร้อมนำทัพนักลงทุนสถาบันชั้นนำ ประเดิมตั้งกองทุนแรก 10,000 ล้านบาท มุ่งลงทุนกลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ในไทย ปักหมุด 4 เมืองท่องเที่ยวหลัก พร้อมประกาศลงทุนโครงการแรกกับ Standard International มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูสที่ภูเก็ต


    ภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำงานกับครอบครัว เคยทำงานในธุรกิจ Private Equity ของ LVMH ซึ่งเขาลงทุนในธุรกิจคอนซูเมอร์ต่างๆ และตอนมาเริ่มทำที่เซ็นทรัลก็อยากทำธุรกิจนี้ที่เซ็นทรัลด้วย โดยพูดกับผู้ใหญ่อยู่เรื่อยๆ ว่าอยากมาทำอะไรแบบนี้ที่นี้

    ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤตโควิด-19 สามารถพลิกฟื้นกลับมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดจากสิ้นปี 2566 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยจำนวนสูงถึง 28 ล้านคน และมีแนวโน้มที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเท่าช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 และขยายตัวต่อไปได้อย่างแน่นอน

ภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด


    “เราจึงมองว่าแนวโน้มธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคท่องเที่ยวยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว จึงตัดสินใจจัดตั้งบริษัท ซีจี แคปปิตอล ขึ้นมา ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบริหารการลงทุนในรูปแบบกองทุน Private Equity เรียกได้ว่าเป็นทุนใหม่ให้ธุรกิจได้มีการพัฒนาโปรดักต์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาในช่วงหลังโควิด

    สรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้งกองทุนแรกมูลค่า 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาการลงทุน 5 ปี ซึ่งมีผู้ลงทุนหลักประกอบด้วย 1.ครอบครัวจิราธิวัฒน์ 2.ธนาคารชั้นนำ 3.นักลงทุนสถาบันระดับโลก โดยสัดส่วนการลงทุนระหว่างไทยกับต่างชาติอยู่ที่ 50:50

สรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด


    สำหรับวัตถุประสงค์ลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนในโรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุก สวนน้ำ และ Mixed-use ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นในเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย และพัทยา โดยคาดว่าจะลงทุนปีละ 3-5 โครงการ

    ภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการแรกที่ลงทุน และได้ Standard International เข้ามาบริหาร ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัย Branded Residences ภายใต้เครือโรงแรมบูทีคไลฟ์สไตล์ระดับโลกอย่าง Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) โดยใช้ชื่อว่า The Standard Residences, Phuket Bang Tao (เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา)

    ส่วนโรงแรมใช้ชื่อว่า The Peri Hotel Phuket Bang Tao (เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือแบรนด์ Standard International เช่นเดียวกัน มูลค่าการลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวภายในเดือนเมษายน 2567 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2569

    โดยทำเลที่ตั้งถือเป็นไข่แดงของย่านเชิงทะเล-บางเทา ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อีกทั้งใกล้แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารดังในภูเก็ต เช่น โบ้ท อเวนิว, ลากูน่า กอล์ฟ คลับ, ปอร์โต เดอ ภูเก็ต, และสวนน้ำบลูทรี 

    “เราจัดตั้งกองทุนแรกนี้ขึ้นมา เพราะมีความเชื่อมั่นว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีอนาคตที่ดี และเชื่อว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจะเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ รวมถึงกลุ่ม Expat และ Digital Nomad ที่มองประเทศไทยเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของโลก

    “ซึ่งการเข้าไปลงทุนในโครงการต่างๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เป็นการช่วยสนับสนุนการพัฒนาของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย และจะส่งผลให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีตามไปด้วยในระยะยาวบนความผันผวนที่ต่ำกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น

    ด้าน สรวิศ กล่าวปิดท้ายว่า “ปัจจุบันการลงทุนในรูปแบบ Private Equity ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำของโลก เพราะมีความคล่องตัวในการบริหาร มีขั้นตอนและหลักเกณฑ์การลงทุนที่เป็นระบบ และให้การเติบโตทางมูลค่าที่แตกต่าง ทำให้นักลงทุนสถาบันชั้นนำทั่วโลกให้น้ำหนักในพอร์ตกันมากขึ้น โดย CG Capital ตั้งเป้าผลตอบแทนอยู่ที่ 18% ต่อปี”

    ทั้งนี้ ทั้งคู่ระบุถึงประเด็นในความแตกต่างและประเด็นที่อาจเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันระหว่างธุรกิจของ "เซ็นทรัลพัฒนา" หรือ CPN กับ CG Capital ว่า สำหรับ CPN นั้นเป็นบริษัทที่ไม่ได้โฟกัสการลงทุนของนักลงทุนภายนอก และไม่ได้โฟกัสในธุรกิจ hospitality ขนาดนั้น เนื่องจากธุรกิจโรงแรมของ CPN จะสร้างโรงแรมที่เชื่อมกับศูนย์การค้า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ CG Capital ทำ และไม่ใช่สิ่งที่ CG Capital ทำได้ด้วย


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “ออริจิ้น” ลุยปั้นมิกซ์ยูสเมืองท่องเที่ยว ปักธง “ภูเก็ต-เขาใหญ่” มูลค่าโครงการรวม 11,000 ล้าน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine