รพ. บำรุงราษฎร์ รีแบรนด์ ‘ศูนย์สุขภาพฯ VitalLife’ ในรอบ 24 ปี รุกขยายกลุ่มต่างชาติ คาดรายได้ปี 67 โตเกิน 10% - Forbes Thailand

รพ. บำรุงราษฎร์ รีแบรนด์ ‘ศูนย์สุขภาพฯ VitalLife’ ในรอบ 24 ปี รุกขยายกลุ่มต่างชาติ คาดรายได้ปี 67 โตเกิน 10%

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ปรับโฉมศูนย์สุขภาพฯ VitalLife ในรอบ 24 ปี มุ่งตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและ Wellness ที่เติบโตแรง คาดปี 2027 อุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลกจะเพิ่มสู่ 8.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เผยผู้ใช้บริการ VitalLife อายุเฉลี่ยน้อยลง เร่งพัฒนาเทคโนโลยี-บริการใหม่ ดึงดูดฐานลูกค้าต่างชาติ ‘ตะวันออกกลาง-CLMV-จีน-US-บังคลาเทศ’ คาดรายได้รวมปี 67 เติบโตสองหลักขึ้นไป


    ดร. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ Chief Executive Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ Executive Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปี 2023 มีมูลค่า 5.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าปี 2027 จะเติบโตขึ้นเป็น 8.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ* ในส่วนของไทยหรือธุรกิจ Wellness พบว่าปี 2022 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยกว่า 10.9 ล้านคน และปี 2023 มีจำนวน 22.0 ล้านคน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตดี และสร้างรายได้ให้ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ จึงได้พัฒนาศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) โดยได้ปรับรูปโฉมใหม่ และการให้บริการแบบบูรณาการมากขึ้น ถือเป็นการรีแบรนด์ครั้งแรกหลังเปิดให้บริการมากว่า 24 ปี ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งสัดส่วนแบ่งเป็นชาวไทย 35% ชาวต่างชาติอยู่ที่ 65% มีทั้งจากตะวันออกกลาง (เช่น กาต้าร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, โอมาน), กัมพูชา, เมียนมา, เวียดนาม, จีน, สหรัฐ และบังคลาเทศ

    ขณะที่ VitalLife ปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ส่วนรายได้จาก VitalLife ปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 30%YoY คาดว่าปี 2567 นี้จะยังเติบโตต่อเนื่องที่สองหลัก (10% ขึ้นไป) โดยปัจจุบันรายได้จาก VitalLife ยังมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ของรายได้รวมโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์



    ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล Chief Executive Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ และ Chief Science Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวว่า VitalLife ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้บริการที่อายุเฉลี่ยน้อยลง ปัจจุบันมีช่วงกลุ่มอายุ 30 ปี จากเดิมที่มักจะเฉลี่ยที่ 50-60 ปี เป็นหลัก

    ขณะที่การปรับโฉมของ VitalLife ครั้งนี้จะมุ่งพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

    1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และแม่นยำจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด

    2) การบูรณาการ AI (AI Integration) ด้วยการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพจำนวนมหาศาลหรือการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนทางชีวเคมี เช่น โรคมะเร็ง และโรคทางระบบประสาทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation) โดยผนวกจุดแข็งในด้านนวัตกรรมในห้องปฏิบัติการเข้ากับความเป็นเลิศทางคลินิกของบำรุงราษฎร์ ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพรอบด้าน

*ข้อมูลจาก New Global Wellness Institute



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ย้ำแกร่งธุรกิจสุขภาพไทย! Thailand Wellness & Healthcare Expo 2024 ปิดฉากงดงาม เงินสะพัดกว่า 227 ล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine