ท่ามกลางสถานการณ์หนี้ครัวเรือนสูง และหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น อีกทางออกของเหล่าธนาคารคือการขายหนี้เสียออก ซึ่ง AMC หรือธุรกิจบริษัทบริหารสินทรัพย์ จะมีบทบาทในการเข้าไปประมูลหนี้ในราคาที่ต่ำกว่าเงินต้นและมาบริหารจัดการต่อ โดย BAM หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทำเรื่องนี้มานานกว่า 25 ปี และเตรียมปรับองค์กรให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ทางบริษัทฯ จัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และปรับปรุง (เช่น รีโนเวท) ทรัพย์เหล่านั้นให้กลายเป็นทรัพย์สินรอการขาย (NPA)
ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 25 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ช่วยลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติจากการแก้ไขปัญหาหนี้กว่า 160,000 ราย คิดเป็นภาระหนี้มีเงินต้นกว่า 480,000 ล้านบาท และสามารถจำหน่ายทรัพย์ไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 53,000 รายการ คิดเป็นราคาประเมินกว่า 123,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าการจัดการหนี้เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจเกิดความยั่งยืนได้ต่อไป
ขณะเดียวกัน BAM ยังเร่งเปลี่ยนผ่านโดยจะปรับการทำงานภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัล และการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการ Transformation 3 ส่วน ได้แก่
1) Transformation for People ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน กับ BAM มี "ประสบการณ์" ที่ดี เช่น ลูกค้าจะได้รับแผนประนอมหนี้ี่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะมีการใช้ Digitalization ปรับขั้นตอนในการติดต่อลูกค้าทั้งการส่งข้อมูล และทำระบบ BAM Choice ซึ่งเป็นระบบ Mobile Application ให้ลูกค้าใช้บริการต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน BAM เตรียมนำระบบ AI มาช่วยในการประเมินกำลังความสามารถในการชำระเงินของลูกหนี้ และวิเคราะห์แผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับลูกหนี้อีกด้วย
2) Transformation for Growth มีเป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มยอดผลเรียกเก็บและช่วยลดค่าใช้จ่าย โดยทำ Digitalization Channel ในการสื่อสารกับลูกค้าแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาติดต่อ BAM ทุกช่องทางได้รับประสบการณ์ที่ดีในการให้บริการ นอกจากนี้ การนำ Data มาใช้ในการวิเคราะห์และช่วยในการตัดสินใจเพื่อให้การบริหารหนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3) Transformation for Efficiency ได้มีการจัดทำระบบบริหารจัดการสินทรัพย์ เพื่อให้กระบวนการในการติดตามและแก้ไขหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดหาเครื่องมือทางด้านดิจิทัล ที่ช่วยให้พนักงานสามารถใช้ระบบสารสนเทศระดับองค์กร (EIS) เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการดำเนินงานและการตัดสินใจ
ในด้านแผนงานหลักในธุรกิจ ตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าซื้อทรัพย์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงเตรียมออก ‘BAM อิสระ เดอะซีรีส์’ 2 เรื่อง ผ่านช่องทาง social media เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงเชิญชวนลูกหนี้เข้าประนอมหนี้
ทั้งนี้ BAM มีนโยบายเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การปรับลดหนี้ การโอนตีทรัพย์ชำระหนี้ การให้ลูกหนี้สามารถซื้อคืนทรัพย์หลักประกันได้ เป็นต้น โดยมีโครงการต่างๆ เช่น “โครงการสุขใจได้บ้านคืน” ซึ่งอัพเดทแคมเปญล่าสุดโดยให้ลูกหนี้ที่มีหลักประกันไม่เกิน 25 ล้านบาท ชำระหนี้เพียง 80% ของราคาประเมิน ในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระไม่เกิน 25 ปี
ในส่วนลูกหนี้กลุ่ม Startup และ SME ที่มีภาระเงินต้นต่อรายไม่เกิน 25 ล้านบาท มี “โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ” เงื่อนไขคือชำระหนี้ 80% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระไม่เกิน 25 ปี
ภาพ: BAM
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : GULF เผยไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิแตะ 6,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% ผลดีหลังควบรวม INTUCH - บาทแข็ง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine