อรรัตน์ ชุติมิต เผยธนาคารไทยพาณิชย์ พัฒนาเครื่องมือออนไลน์ “มณี Business Booster” ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มยอดขาย และขยายกิจการ เพื่อเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับวิถีใหม่และเดินหน้าต่อได้ในระยะยาว
อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นเดินหน้าเคียงข้างและให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SME) อย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถปรับตัวและเตรียมพร้อมที่จะเดินหน้าอีกครั้งหลังโควิดคลี่คลาย เนื่องจากธุรกิจเอสเอ็มอีถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยจำนวนผู้ประกอบการมากที่สุดกว่า 3 ล้านรายและเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สุดในสัดส่วนสูงถึง 82% ของแรงงานทั้งหมดที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน เราเห็นการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าที่หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการล้วนทำผ่านโมบายแบงก์กิ้ง เพราะผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสด ดังนั้น หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไป เราจะเห็นภาพโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนรูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไป และอาจมี New Normal เกิดขึ้น” ดังนั้น ธนาคารจึงเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนให้เจ้าของกิจการและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถข้ามผ่านช่วงเวลายากลำบาก และพร้อมรับวิถีใหม่ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น ด้วยการพัฒนา “มณี Business Booster” ขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถประเมินความพร้อมและ ค้นหาส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว รวมถึงโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ ลดรายจ่าย เพิ่มยอดขาย และขยายกิจการ พร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเดินหน้าทำธุรกิจรับวิถีใหม่และไปต่อได้ในระยะยาว ผู้ช่วยผู้ประกอบการ “มณี Business Booster” เครื่องมือออนไลน์ช่วยค้นหาส่วนผสมธุรกิจที่ลงตัวและโซลูชันที่เหมาะสมกับธุรกิจ สามารถเข้าใช้งานผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน เพียงให้ข้อมูลธุรกิจผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร จากนั้นระบบจะทำการประมวลผลเพื่อแนะนำโซลูชันแบบ personalized สำหรับธุรกิจ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับเพื่อเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแบบตรงจุด รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจระดับประเทศที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจในทุกด้าน นอกจากนี้ มณี Business Booster ยังมาพร้อมกับโซลูชันครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ ลดรายจ่าย โดยธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง ดิจิทัลแพลตฟอร์มทุกประเภท และหากเปิดบัญชีมณีมั่งคั่ง ซึ่งเป็นบัญชีกระแสเงินสดยังได้รับดอกเบี้ยสูงสุด 1% ทุกสิ้นเดืออนตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ส่วนการเพิ่มยอดขายสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันแม่มณี QR Code ที่ให้ร้านค้าสามารถรับเงินง่ายผ่าน QR Code ช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสเงินสด และบริการ Google My Business ตัวช่วยที่ทำให้ค้นหาร้านค้าง่ายบนโลกออนไลน์ รวมทั้งเพิ่มแพลตฟอร์มบริการส่งอาหาร “Robinhood” เป็นทางเลือกช่องทางการจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยไม่มีค่าจีพี สมัครฟรี และเจ้าของร้านได้เงินรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง ตลอดจนการใช้สินเชื่อมณีทันใจเพื่อขยายกิจการหรือธุรกิจได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนสำหรับต่อยอดทางธุรกิจ “มณี Business Booster ยังเป็นศูนย์รวมคู่ค้าเกือบ 30 ราย สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาดีลทางธุรกิจดีๆ สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ เปรียบเสมือนผู้ช่วยเสริมพลังทางธุรกิจ เช่น แหล่งรวมคอร์สการตลาดออนไลน์, ระบบการจัดการดูแลร้านค้า, แพคแกจ บรรจุภัณฑ์ หรือการส่งสินค้า เป็นต้น ซึ่งธนาคารคาดว่า “มณี Business Booster” จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ประเมินความพร้อมและค้นหาส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว เพื่อเตรียมรับกับการทำธุรกิจวิถีใหม่และนำพาธุรกิจของตนไปต่อได้ในระยะยาว” อ่านเพิ่มเติม: จ๊อบส์ ดีบี เผยช่วงโควิดมนุษย์เงินเดือนถูกเลิกจ้าง 3.5 ล้านคน การทำงานไม่มีความสุขเพิ่มขึ้น 3 เท่าไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine