ธนาคารทิสโก้แนะเร่งปรับพอร์ตหลังหุ้นวัฏจักรเศรษฐกิจใกล้หมดรอบขาขึ้น พร้อมเชียร์ลงทุนหุ้นปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่ม "หุ้นไบโอเทคฯ" ปลื้มราคา Biogen วิ่งแรงตามคาดทะยาน 38.34% รับข่าว FDA อนุมัติยาอัลไซเมอร์
ณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาหุ้นวัฏจักรเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่มาก ขณะเดียวกันยังแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในหุ้นนวัตกรรมการแพทย์ (Innovative Healthcare) โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีทางชีวภาพ (Biotechnology) หรือกลุ่ม หุ้นไบโอเทคฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหุ้นกลุ่ม Defensives (หุ้นปลอดภัย) ที่ผลประกอบการค่อนข้างเสถียร และไม่แปรผันตามวัฏจักรเศรษฐกิจ เนื่องจากประเมินว่าในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและสภาพคล่องในระบบรออยู่มาก นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทางชีวภาพยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น เช่น หุ้น Biogen ซึ่งมูลค่าทะยานเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.34 ไปอยู่ที่ 395.85 เหรียญฯ ต่อหุ้นในวันเดียว หลังจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติยารักษาโรคอัลไซเมอร์ชื่อ Aducanumab ของบริษัท Biogen บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐอเมริกา โดยถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของหุ้นไบโอเทคโนโลยีที่ราคาหุ้นมักจะปรับขึ้นแรงเมื่อมีข่าวดีเรื่องการอนุมัติยา และการควบรวมกิจการเกิดขึ้น “ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มวัฏจักร (Cyclical Stocks) เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน (Financials) กลุ่มพลังงาน (Energy) กลุ่มอุตสาหกรรม (Industrials) ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ตามการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และสภาพคล่องในระบบที่ยังคงมีอยู่มาก ทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว แต่ในมุมมองของธนาคารทิสโก้ประเมินว่า ในช่วงครึ่งปีหลังหุ้นกลุ่มวัฏจักรอาจจะไม่ใช่ผู้นำในด้านการสร้างผลตอบแทนอีกต่อไป เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจน่าจะเข้าใกล้จุดสูงสุดแล้ว ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบในเดือนสิงหาคมนี้” ณัฐกฤติกล่าว ขณะที่ธนาคารทิสโก้ยังมองแนวโน้มหุ้นกลุ่มวัฏจักรน่าจะใกล้หมดรอบขาขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจและสภาพคล่องจากธนาคารกลางสำคัญต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งสอดคล้องกับการรวบรวมความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดย Bloomberg คาดการณ์ว่า GDP ของสหรัฐอเมริกาจะขยายตัวสูงสุดในไตรมาส 2 ที่ร้อยละ 9.0 และจะชะลอตัวลงในช่วงที่เหลือของปีเป็นร้อยละ 6.5 และร้อยละ 4.6 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่หมดลงหลังจากกระจายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนคาดว่า จะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะเริ่มส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่อง เพื่อแตะเบรกเงินเฟ้อ ในการประชุม Jackson Hole ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมทั้งปัจจัยด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นก็ยังสร้างแรงกดดันต่อกำไรของบางบริษัทในหุ้นกลุ่มวัฏจักรอีกด้วย
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine