จับตา “หุ้น STARK” หลังบอร์ดออกยกทีม เลื่อนส่งงบการเงินหลายรอบ - Forbes Thailand

จับตา “หุ้น STARK” หลังบอร์ดออกยกทีม เลื่อนส่งงบการเงินหลายรอบ

หลังคณะกรรมการของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมใจกันลาออกยกทีมจำนวน 7 ราย และเลื่อนส่งงบการเงินปี 65 ออกไปอีกหลายรอบ จนเป็นผลให้หุ้น STARK ถูก SP ยาว กระทบต่อราคาหุ้นของ KBANK และ SBC ที่ปล่อยสินเชื่อให้ร่วงลงอย่างแรงตามไปด้วย

 

    บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กลายเป็นหุ้นที่ถูกเหล่านักลงทุนต่างจับตามากที่สุดในขณะนี้ หลังบริษัทได้รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่ากรรมการบริษัทได้ยื่นลาออกถึง 7 ราย โดยการยื่นลาออกแบบกระทันหันดังกล่าว มี "นายชนินทร์ เย็นสุดใจ" ประธานกรรมการบริษัทและผู้ตรวจสอบบัญชีใหม่ร่วมอยู่ด้วย

​"นายชนินทร์ เย็นสุดใจ" ประธานกรรมการบริษัท STARK


    นอกจากนี้ ทางบริษัทเองยังไม่สามารถการงบการเงินประจำปี 2565 ได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จนเป็นผลให้ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดทำการซื้อขายหุ้น STARK นับตั้งแต่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ชี้แจงว่า จะขอส่งงบการเงินภายในวันที่ 31 มี.ค. 66 แต่ก็ยังมีการขอเลื่อนส่งงบออกไปอีก โดยอ้างว่าข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการและอยู่ในการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี และยืนยันว่าจะส่งงบภายในวันนี้ (21 เม.ย.2566) 

    แต่สุดท้ายก็ขอเลื่อนเวลาออกไปอีกรอบ เมื่อบริษัทแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ไม่สามารถส่งงบการเงินปี 65 ได้ทัน ด้วยเหตุผลที่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทและผู้บริหารชุดใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลใหม่ จึงจะขอยื่นส่งงบการเงินไปเป็นช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 66 แทน

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทาง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร โดยมีการปรับลดจำนวนกรรมการ จากเดิม 9 ราย ให้เหลือเพียง 6 ราย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น


วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท STARK


    สำหรับรายชื่อของผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ และคณะกรรมการใหม่ รวมทั้งสิ้น 6 ราย ซึ่งมาแทนที่คณะกรรมการชุดเดิมที่ลาออกไป มีดังต่อไปนี้
1. นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ
2. พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ประธานกรรมการ / กรรมการอิสระ
3. นายอภิชาติ ตั้งเอกจิต กรรมการ / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
4. นายนพดล ธีระบุตรวงศ์กุล กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ
5. นายเสนธิป ศรีไพพรรณ กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ / ประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน

6. นายสุวัฒน์ เชวงโชติ กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ


ซึ่งระหว่างนี้ บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่มีคุณสมบัติเหมาะสม 

และจะแจ้งให้ทราบต่อไปในอนาคต


    ขณะที่ทาง KBANK ที่ผ่านมามีการปล่อยสินเชื่อให้ STARK ประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วน SCB มีการปล่อยสินเชื่อให้ STARK ราว 2,000 -3,000 ล้านบาท ซึ่งหากสมุมติทาง STARK มีการผิดชำระหนี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อกำไรของ KBANK ประมาณ 47% ต่อประมาณการกำไรไตรมาส 1/66 ส่วน SCB คาดว่า จะเพิ่มความเสี่ยงด้านลบ 22% ให้กับประมาณการกำไร 1/66 

    นี่จึงเป็นผลให้ราคาหุ้นของ KBANK และ SCB ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของ Stark ได้ปรับตัวลงอย่างแรงเมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 66) โดย KBANK ลดลงกว่า 4.18% มาปิดตลาดที่ระดับ 126 บาท หรือลดลง 5.50 บาท ส่วนหุ้น SCB ลดลง 0.75% มาปิดตลาดที่ 99.75 บาท หรือลดลง 0.75 บาท



อ่านเพิ่มเติม: ​เอสซีบี เอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิ ไตรมาสแรกปี66 1.09 หมื่นล้านบาท


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine